เช็คทะเบียนรถ ว่าเป็นของใคร ว่าอยู่เขตไหน ทำอย่างไร

เช็คทะเบียนรถ ว่าเป็นของใคร ว่าอยู่เขตไหน ทำอย่างไร

ENNXO
/
Blog
/
เช็คทะเบียนรถ ว่าเป็นของใคร ว่าอยู่เขตไหน ทำอย่างไร

แชร์

Share on Line
อัพเดทล่าสุด: 13 ส.ค. 2567

เนื่องจากป้ายทะเบียนรถเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถใช้ระบุตัวของเจ้าของรถยนต์คันนั้นๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถบอกได้ว่า ป้ายทะเบียนดังกล่าวเป็นป้ายทะเบียนของแท้หรือไม่จากการตรวจสอบเลขทะเบียน ดังนั้น สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหารถยนต์มือสอง

นอกจากราคากับสภาพรถแล้วการเช็คทะเบียนรถ หรือตรวจสอบป้ายทะเบียนรถจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน อย่างน้อยก็ควรจะได้รู้ว่า รถยนต์มือสองคันที่เราเล็งไว้ มีประวัติทะเบียนยังไงบ้าง หรือป้ายทะเบียนที่ใช้ เป็นป้ายสวมมาจากรถคันอื่นหรือไม่ ไปจนถึง กรณีเกิดอุบัติเหตุ และคู่กรณีหนีไป หรือในกรณีของบริษัทประกัน เช่นนี้แล้ว มาดูกันว่า เราจะเช็กป้ายทะเบียนรถได้ยังไง

how to check license plate

เช็คทะเบียนรถ ว่าเป็นของใคร ได้อย่างไร ในกรณีไหนได้บ้าง

1.) กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน และคู่กรณีหนีไป

เมื่อเกิดอุบัติเหตุในลักษณะชนแล้วหนี หากเรามีเบาะแสของรถคู่กรณีที่หนีไปเป็นป้ายทะเบียนรถ ก็สามารถนำป้ายทะเบียนไปตามหาได้ว่าใครเป็นเจ้าของรถ ด้วยวิธีการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ของพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเราจะต้องแนบหลักฐานต่างๆ ที่เราได้มา ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อ รุ่นรถ เลขทะเบียน และวีดีโอบันทึกเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดหรือกล้องหน้ารถ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตามหาตัว

2.) กรณีเช็คทะเบียนรถที่ถูกอายัด

เจ้าของป้ายทะเบียนรถคู่กรณีต่อไป ในกรณีที่เจ้าของรถค้างชำระค่าปรับจารจร หรือป้ายทะเบียนรถไม่สามารถมองเห็นตัวอักษรชัดเจน จะทำให้ไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์ หรือต่อภาษีรถประจำปีได้แบบรถทั่วไป ดังนั้น ถ้าอยากรู้ว่าป้ายทะเบียนรถของรถยนต์มือสองคันที่เราเล็งไว้เป็นทะเบียนรถที่ถูกอายัดหรือไม่ ก็สามารถขอเช็กทะเบียนรถ โดยการยื่นคำขอพร้อมเอกสารการซื้อขายรถไปยังสำนักงานขนส่งในเขตที่เราอยู่ กับอีกวิธีหนึ่งคือ ตรวจสอบทะเบียนรถตอนเข้ามาชำระภาษีรถประจำปี หรือขอต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้า เพื่อดูว่าเป็นทะเบียนที่ถูกอายัดหรือไม่

3.) กรณีต้องการเช็คทะเบียนรถว่าถูกขโมยมาหรือไม่

กรณีนี้ จะตรวจสอบเมื่อต้องการทราบว่าทะเบียนรถนั้นๆ เป็นทะเบียนที่ถูกอายัดเพราะตัวรถถูกแจ้งความว่าถูกขโมย หรือกรณีเป็นรถต้องสงสัย และต้องการเช็กทะเบียนรถ ซึ่งจะไม่สามารถเช็กทะเบียนรถผ่านช่องทางออนไลน์ หรือแอปพลิเคชั่นตรวจสอบรถหายได้ เนื่องจากข้อมูลอาจจะยังไม่มีการอัปเดต วิธีเช็กทะเบียนในกรณีนี้ก็คือ ให้ยื่นขอตรวจสอบประวัติทะเบียนรถ กับสำนักงานขนส่งภายในพื้นที่เขต พร้อมเอกสารสำหรับการเช็กประวัติทะเบียนรถ

4.) กรณีต้องการเช็คทะเบียนรถปลอม เพื่อความมั่นใจในการซื้อรถมือสอง

กรณีที่สงสัยว่ารถมือสองที่เราหมายตาอยู่ เป็นรถสวมทะเบียนหรือไม่ เราสามารถตรวจสอบป้ายทะเบียนปลอมแบบเบื้องต้นได้ด้วยการดูที่ตัวอักษรย่อ ขส ซึ่งจะเป็นตัวอักษรนูนต่ำ ที่มุมด้านล่างขวาว่ามีหรือไม่ หากมีจึงจะเป็นป้ายทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือหากต้องการทราบประวัติเลขทะเบียนรถ หรือรายชื่อเจ้าของรถคนก่อนๆ อย่างละเอียด ก็ทำได้ด้วยการยื่นคำขอตรวจสอบป้ายทะเบียนพร้อมเอกสารคำร้องไปยังกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่รถคันนั้น

หลักการพิจารณาคำขอเช็คทะเบียนรถของกรมขนส่ง

สำหรับหลักเกณฑ์สำหรับการยื่นเพื่อพิจารณาคำขอเช็กทะเบียนรถ เพื่อตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของรถ จะอนุญาตให้ยื่นคำขอเฉพาะผู้มีส่วนได้เสียกับรถคันนั้น และส่วนใหญ่จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลเจ้าของรถเพื่อนำไปประกอบการไต่สวนคดีความเท่านั้น แต่หากผู้ยื่นคำขอเช็กทะเบียนรถต้องการนำประวัติทะเบียนรถไปใช้ในวัตถุประสงค์อย่างอื่นนอกเหนือไปจากเรื่องคดีความ เจ้าหน้าที่นายทะเบียนจะพิจารณาตามเหตุผลและความจำเป็นของผู้ยื่นคำขอเช็กทะเบียนเป็นรายๆ ไป โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาคำขอเช็กทะเบียนดังนี้

หลักพิจารณาคำขอเช็คทะเบียนรถหาเจ้าของ

1. ต้องเป็นบุคคลที่มีส่วนได้เสีย หรือเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งกับข้อมูลที่ขอตรวจสอบ

2. หากต้องการการรับรองสำเนารายการจดทะเบียนรถยนต์ กับรายชื่อเจ้าของรถ จะต้องยื่นคำขอ ณ สำนักงานขนส่งของเขตพื้นที่ที่รถคันดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบ

3. หากต้องการจะเข้าตรวจสอบ หรือขอถ่ายสำเนาข้อมูลทะเบียนรถ ต้องแนบหลักฐานตามกรณีดังต่อไปนี้

  • กรณีมีคดีความขึ้นไต่สวนในศาล ต้องใช้หมายศาล หรือคำสั่งศาล
  • กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ, หน่วยงานราชการ หรือบุคคลที่ได้รับอำนาจตามกฎหมาย เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องทำหนังสือราชการ และส่งเรื่องมาจากหน่วยงานต้นสังกัด
  • กรณีทนายความที่รับทำคดีที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์คันนั้นๆ
  • กรณีบริษัทประกันภัย ต้องมีหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัย สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับตัวคดีความจากสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ
เช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใคร

เอกสารประกอบการเช็คทะเบียนรถและค่าธรรมเนียม

1. บัตรประชาชน ทั้งฉบับจริงและสำเนา พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องครบถ้วน

2. หนังสือรับรองกรณีเป็นตัวแทนจากนิติบุคคล เช่่น ตัวแทนจากบริษัทประกันภัย ทั้งฉบับจริงและสำเนา พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามทุกคน โดยสำเนาต้องลงลายมือชื่อและประทับตราบริษัทในเอกสารทุกฉบับ

3. หนังสือจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อขอตรวจสอบหรือขอสำเนาทะเบียนรถ ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานราชการ หรือผู้มีอำนาจตามกฎหมาย โดยหนังสือต้องเป็นฉบับจริง

4. สำเนาแต่งตั้งเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัย พร้อมลงลายมือชื่อ

5. สำเนาใบอนุญาตทนายความ หรือหนังสือแต่งตั้งทนายความ

6. สำเนาบันทึกประจำวันของคดีเกี่ยวกับตัวรถ จากสถานีตำรวจท้องที่ ทั้งตัวจริงและสำเนา

ค่าธรรมเนียมการเช็คทะเบียนรถ

  • ค่าคำขอ ฉบับละ 5 บาท
  • ค่ารับรองสำเนา ใบละ 20 บาท
  • ค่าขอค้นเอกสารรถยนต์ ครั้งละ 50 บาท
  • ค่าขอค้นเอกสารรถจักรยานยนต์ ครั้งละ 10 บาท

ติดต่อขอเช็คทะเบียนรถที่ไหนดี

สามารถยื่นคำขอเพื่อ เช็คทะเบียนรถ ได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น กรมการขนส่งทางบก, สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ หรือสำนักงานขนส่งประจำจังหวัด ตามช่องทางบริการยื่นคำขอเช็กทะเบียนรถ ได้แก่

  • เขตพื้นที่กรุงเทพฯ ติดต่อกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ ตามเขตพื้นที่
  • กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 5 (จตุจักร) ติดต่ออาคาร 2
  • พื้นที่ต่างจังหวัด ติดต่อสำนักงานขนส่งประจำจังหวัดนั้นๆ
  • ช่องทางติดต่อสอบถาม สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 5 (จตุจักร) โทรศัพท์ 0-2271-8888

เช็คทะเบียนรถออนไลน์ได้ไหม

คุณไม่สามารถเช็คทะเบียนรถออนไลน์ได้ แต่จะต้องไปทำเรื่องขอเช็กที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น โดยต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากรถคันที่ขอตรวจสอบนั่นเอง

แชร์

Share on Line

บทความใกล้เคียง