พัฒนาการของลูกแมวแต่ละเดือน ลักษณะตามช่วงอายุ มือใหม่ต้องรู้!

การเลี้ยงลูกแมวให้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดแสนรัก และให้พวกเขามีช่วงอายุเฉลี่ยที่ยืนยาวที่สุดนั้นมีปัจจัยประกอบด้วยกันหลายด้าน แต่หนึ่งในปัจจัยสำคัญอย่างมากนั่นคือการดูแลลูกแมวตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย เพราะการเจริญเติบโตของแมวแต่ละเดือนนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ช่วงวัยแรกเกิดไปจนถึงแมวโตเต็มวัยทั้งด้านร่างกาย พฤติกรรม หรือลักษณะนิสัย โดยแมวจะมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวัยนั้นๆ

เรียกว่าการคอยดูพัฒนาการเจริญเติบโตของลูกแมวนั้นเปรียบเสมือนเป็นลูกน้อยๆ คนหนึ่งที่ต้องได้รับการฟูมฟักอย่างดีเลยก็ว่าได้ เพราะทุกวิวัฒนาการของลูกแมวจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญๆ เช่น เริ่มลืมตาครั้งแรก ฟันเขี้ยวเริ่มงอก ลูกแมวหย่านม หรือเรียนรู้ที่จะเข้าสังคม เป็นต้น เพื่อไม่ให้เพื่อนๆ ชาวทาสแมวพลาดโมเมนต์สำคัญของเจ้าเหมียวตัวน้อยๆ วันนี้ ENNXO ตลาดซื้อขายแมวออนไลน์จะพาไปติดตามดูพัฒนาการของแมวแต่ละเดือนกัน!

พัฒนาการของแมวแต่ละเดือนตามช่วงวัย

ช่วงสัปดาห์แรกไปจนถึงสัปดาห์ที่ 8 ของลูกแมวเป็นไทม์มิ่งที่ต้องใส่ใจและดูแลอย่างใกล้ชิดจนกว่าลูกแมวน้อยของคุณจะโตเต็มวัยช่วงอายุ 1 ปี โดยในแต่ละสัปดาห์ลูกแมวจะมีพัฒนาการ และลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ดังนั้นเจ้าของจึงต้องเรียนรู้วิวัฒนาการแมวเพื่อเข้าใจว่าลูกน้อยของคุณต้องการการดูแลแบบไหน อาหารอะไรที่เหมาะกับช่วงวัยนั้นๆ แล้วพัฒนาการลูกแมวเป็นไปอย่างปกติหรือไม่

แมววัยแรกเกิด - 4 สัปดาห์

พัฒนาการของวัยแรกเกิดช่วงอายุแมวตั้งแต่ 0-2 สัปดาห์ เป็นช่วงวัยที่เริ่มแรกทุกอย่างตั้งแต่เริ่มลืมตา เริ่มได้ยิน ไปจนถึงเริ่มหัดเดิน แบ่งตามช่วงวัยได้ดังนี้

ในลูกแมวแรกเกิดนั้นระบบการรับรู้ยังไม่ทำงาน ดวงตายังปิดอยู่ไม่สามารถมองเห็นได้ และใบหูที่พบลงจะไม่ได้ยิน ทั้งยังมีสายสะดือติดอยู่แต่จะหลุดไปเองหลังจาก 4-5 วัน สำหรับอวัยวะส่วนจมูก อุ้งเท้า และเหงือกจะเป็นสีชมพูสด ส่วนฟันจะยังไม่ขึ้น นอกจากนี้แมววัยแรกเกิดนั้นชอบความอบอุ่นควรอยู่อุณหภูมิประมาณ 29-32 องศาเซลเซียส

เมื่อลูกแมวเข้าสู่วัยก่อนหย่านม (สัปดาห์ที่ 2-4) ดวงตาสีฟ้าจะเริ่มเปิดเต็มที่สามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ๆ แต่จะค่อยๆ มองเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ใบหูที่พับจะเริ่มคลายออกการได้ยินจะดีขึ้น ที่สำคัญลูกแมว 2 สัปดาห์จะสามารถก้าวเดินได้เป็นครั้งแรก และลูกแมว 3 สัปดาห์เริ่มมีฟันงอกแล้ว

• แมวมีลักษณะนิสัย: ชอบนอนหลับทั้งวัน ยังเคลื่อนไหวได้น้อย สามารถเปล่งเสียงร้องได้ตั้งแต่เกิด การมองเห็นจะค่อยๆ ชัดขึ้น และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แมวจะเริ่มรู้สึกอยากดูแลตัวเอง

• น้ำหนักมาตรฐานลูกแมวเฉลี่ย: น้ำหนักจะต้องเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าในลูกแมว 1 สัปดาห์ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามช่วงวัย

• อาหาร: ลูกแมวอายุ 10 15 หรือ 20 วัน ไปจนถึงลูกแมว 2-3 สัปดาห์ยังต้องกินนมแมว หรือนมผงทดแทนสำหรับลูกแมว โดยปริมาณจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักและช่วงวัย

แมวสัปดาห์ที่ 4-6

ช่วงอายุแมวสัปดาห์ที่ 4-6 เป็นวัยที่มีพัฒนาการดีขึ้น ทั้งเรื่องการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว ประสาทสัมผัสการมองเห็น การได้ยินเสียงที่ชัดเจน รวมทั้งมีฟันเขี้ยวยาวขึ้นทะลุเหงือกออกมา และกรงเล็บสามารถหดได้แล้ว ที่สำคัญแมววัยนี้มีทักษะการเข้าสังคมที่ดีขึ้น และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 ลูกแมวหย่านมได้แล้วสามารถเปลี่ยนเป็นอาหารเปียก และน้ำสะอาด พร้อมทั้งต้องเตรียมกระบะทรายให้เจ้าแมวน้อย

นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยของแมวยังควรมีอุณหภูมิที่สามารถให้ความอบอุ่นได้อย่างสบาย ซึ่งช่วงอายุแมวในสัปดาห์ที่ 6 นี้เรียกว่าเป็นสเตทสุดท้ายของพัฒนาการลูกแมวระยะเริ่มต้น นอกเหนือจากการดูแลเจ้าเหมียวตามพัฒนาการแต่ละเดือนแล้ว เจ้าของต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนแมวเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกแมว

• แมวมีลักษณะนิสัย: สามารถตอบสนองกับสิ่งรอบตัวได้ดี ใช้ของเล่นแมวได้ มีความกระตือรือร้นชอบการกระโดด

• น้ำหนักมาตรฐานลูกแมวเฉลี่ย: 450-750 กรัม

• อาหาร: ลูกแมวหย่านมแล้ว ให้เตรียมอาหารเปียกและน้ำสะอาดไว้ตลอดเวลา

ลูกแมวอายุ 2-3 เดือน

ลูกแมว 2-3 เดือนหรือช่วงอายุสัปดาห์ที่ 8 เป็นต้นไปเป็นช่วงที่แมวกำลังเข้าสู่วัยโตเต็มวัย ลูกแมวในช่วงนี้จะมีอวัยวะที่สมบูรณ์ สีดวงตาจะเปลี่ยนไปเป็นสีเขียว, สีเหลือง, สีน้ำตาล หรือสีน้ำเงิน และฟันน้ำนมจะขึ้นครบทุกซี่ มีพฤติกรรมและนิสัยเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้วลูกแมวจะน่ารักเต็มอ้อมแขนในวัยนี้ และยังเป็นช่วงวัยที่เจ้าของหาบ้านใหม่ให้เจ้าแมวน้อยได้ สามารถเลือกแมวพันธุ์ที่ชอบได้ที่ ENNXO ตลาดแมวออนไลน์

• แมวมีลักษณะนิสัย: มีพลังงานมาก ชอบซุกซน ชอบปีนป่าย และชอบกระโดดมากขึ้น

• น้ำหนักมาตรฐานลูกแมวเฉลี่ย: ประมาณ 1 กิโลกกรัม

• อาหาร: ลูกแมว 2-3 เดือนให้อาหารกระป๋อง อาหารเม็ดสำหรับลูกแมว และน้ำสะอาดเป็นหลักในปริมาณ 3-4 ครั้งต่อวัน

ลูกแมวอายุ 3-6 เดือน

ลูกแมว 4 เดือนไปจนถึง 6 เดือนเป็นระยะสุดท้ายที่เป็นลูกแมว หลังจากนี้เจ้าเหมียวจะกลายเป็นวัยรุ่นแล้ว ดังนั้นนิสัยแมว 3-6 เดือนจะมีพลังงานเหลือล้น มีพฤติกรรมที่หวงอาณาเขต เป็นวัยที่พร้อมผสมพันธุ์จึงเริ่มมีอาการติดสัด โดยในช่วงวัยนี้เหมาะกับการฝึกแมวมากที่สุดเพราะลักษณะนิสัยช่วงวัยนี้มีความต่างเฉพาะแต่ละตัว และจะติดตัวไปตลอด

• แมวมีลักษณะนิสัย: ขี้สงสัยชอบแอบดู ปรับตัวเข้ากับสังคมได้เก่ง มักแสดงนิสัยขี้อ้อนอยากให้เจ้าของเอาใจ

• น้ำหนักมาตรฐานลูกแมวเฉลี่ย: ประมาณ 2-3 กิโลกกรัม

• อาหาร: ลูกแมว 3-6 เดือนให้อาหารกระป๋อง อาหารเม็ดสำหรับลูกแมว และน้ำสะอาดเป็นหลักในปริมาณ 4 ครั้งต่อวัน

แมวโตเต็มวัย 6 เดือน -1 ปี

แมวโตเต็มที่ช่วง 6 เดือน -1 ปีขึ้นไป วัยนี้จะเรียกว่าลูกแมวไม่ได้แล้วเพราะเจ้าเหมียวกลายเป็นแมววัยรุ่นที่โตเต็มวัยแล้ว ช่วงนี้พัฒนาการต่างๆ ยังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่พฤติกรรมและนิสัยต่างๆ ยังคงมีความเป็นแมวเด็ก ถึงแม้จะไม่มีพลังงานเหลือล้นเหมือนตอนเป็นแมวเด็ก โดยในช่วงวัยนี้สามารถทำหมันแมวได้แล้ว

• แมวมีลักษณะนิสัย: ขี้เล่น มีความกระตือรือร้น แต่สงบมากกว่าตอนเป็นลูกแมว

• น้ำหนักมาตรฐานลูกแมวเฉลี่ย: ประมาณ 4 กิโลกกรัม

• อาหาร: แมวโตเต็มวัยกินอาหารกระป๋อง อาหารเม็ดสำหรับลูกแมว และน้ำสะอาดเป็นหลัก ให้อาหาร 2-3 ครั้งต่อวัน

การเจริญเติบโตตามช่วงอายุของแมว

การเจริญเติบโตของแมวแต่ละช่วงมีความสำคัญมากสำหรับชาวทาสแมว เพราะหากเจ้าของเข้าใจถึงพัฒนาการของแมวแต่ละเดือนนั้นจะยิ่งช่วยให้การเลี้ยงดูแมวน้อยมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้สุขภาพลูกแมวแข็งแรงมีอายุขัยเฉลี่ยยาวนานขึ้น ทั้งนี้พัฒนาการแมวนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักมาตรฐานลูกแมว ดังนี้

สรุปให้ฟังตามนี้ พัฒนาการลูกแมวนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละวัยอิงตามน้ำหนักมาตรฐานลูกแมว โดยช่วงอายุของลูกแมวน้อยนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดว่าลูกแมวมีความต้องการอย่างไร ทั้งพฤติกรรมของแมว ลักษณะด้านร่างกาย รวมถึงด้านอาหารการกิน โดยเฉพาะวิธีเลี้ยงลูกแมว 1 เดือนต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แล้วเหล่าทาสจะพบว่าวัฏจักรชีวิตของแมวทุกช่วงวัยนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ชาวนุดใจฟูกันแน่นอน สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากมีแมวตัวโปรดเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์ต่างประเทศ สายพันธุ์แมวเปอร์เซีย พันธุ์แมวทุกสายประเภท ซื้อขายได้เลยที่ตลาดขายแมวเอ็นโซ่