การกลับมาของ IVE ที่สร้างความปังกันอีกครั้ง กับเพลง Kitsch เพลงที่เริ่มมาแบบสบายๆ แล้วค่อยๆ เข้าท่อนฮุคสุดมันส์ เชื่อว่าต้องมีใครหลายคนโยกหัวตามกันบ้างล่ะ แถมบีทและทำนองเพลงยังรวมเข้ากันได้อย่างกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เห็นการเติบโตของสาวๆ กับคอนเซ็ปต์แบบใหม่ ลุคใหม่ที่ชาว DIVE อย่างเราสุดแสนประทับใจและปริ่มใจกับความเก่งของสาวๆ ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่เพลง Kitsch ที่ปล่อยออกมานี้เป็นหนึ่งในเพลงของอัลบั้มเท่านั้น สำหรับเพลงไตเติ้ลจะปล่อยออกมาให้เราได้รับชมกันในวันที่ 10 เมษายนนี้
นอกจากความเริ่ดของสาวๆ ทั้ง 6 คนแล้ว ทีนี้มาว่ากันด้วยชื่อเพลง หลายๆ คนอาจกำลังสงสัยว่าคำว่า “Kitsch” คืออะไร หรือหากคุณได้ดูคำแปลของเพลงนี้แล้ว จะเจอกับความหมายว่าเป็นศิลปะไร้ค่าในช่วงศตวรรษที่ 19 แล้วทำไมถึงนิยามว่าเป็นศิลปะที่ไม่มีคุณค่าล่ะ? ด้วยความที่เราชอบทั้งศิลปะและเป็นแฟนคลับวง IVE จึงได้รวบรวมข้อมูลความหมายของคำว่า Kitsch มาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยล่วงหน้า หรือหากมีประเด็นอะไรเพิ่มเติม สามารถแจ้งเราได้ทุกช่องทาง ขอบคุณค่ะ
Kitsch (คิทช์) เป็นภาษาเยอรมันปรากฏขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 โดยคำๆ นี้มาจากคำว่า “verkitschen” ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า “ทำให้(ราคา)ถูก” ด้วยเหตุนี้คำว่า Kitsch จึงเป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการแบ่งศิลปะที่สร้างขึ้นมาโดยเลียนแบบจากของเดิมแต่ดันไม่มีคุณภาพ หรืองานศิลปะที่ถูกเรียกว่าเป็นของปลอม ของเชยๆ ที่มันไม่มีความเจ๋ง
แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่าเป็นศิลปะแบบคิทช์? จากคำนิยามของคนในอดีตนั้น มันคือศิลปะจำพวกงานที่ลอกเลียนแบบงานมาสเตอร์พีซ หรือพวกของขายที่ระลึกนักท่องเที่ยว ที่พบเห็นได้ตามท้องตลาดของพวกชาวบ้าน โดยส่วนใหญ่ทำออกมาในแบบสีสันฉูดฉาด ดูโอเวอร์ และถูกผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ไม่ได้เหมือนศิลปะของชนชั้นสูงที่ถูกสร้างขึ้นมาเพียงแค่ชิ้นสองชิ้น ก็คือไม่ได้เป็นดังคำนิยามที่ว่า “ศิลปะต้องมีชิ้นเดียวในโลก”
หากพูดแบบง่ายๆ ก็คือ คำว่าคิทช์ ไว้ใช้เรียกศิลปะที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักศิลปะชั้นสูงของคนในอดีต ในมุมมองของเราเราคิดว่ามันคือคำที่ชนชั้นสูงที่เสพงานศิลปะใช้ในการด้อยค่างานศิลปะอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในบรรทัดฐานของตนเองนั่นเอง ซึ่งคิทช์ไม่ได้ถูกพูดถึงแค่งานศิลปะเท่านั้นนะ แต่ยังรวมไปถึงผลงานในหลายๆ อย่างที่ปรากฏในชีวิตประจำวันอีกด้วย
เมื่อศิลปะแบบคิทช์ไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ในขณะที่ศิลปะ Modern Art (ศิลปะสมัยใหม่) กลายเป็นศิลปะในกระแสของสังคมแทน จึงเกิดการต่อต้านศิลปะแบบคิทช์ที่ถูกมองว่าตลาดมหาชนของคนธรรมดา แล้วในเวลาต่อมาก็มีศิลปะ Postmodern Art (ศิลปะหลังสมัยใหม่) ที่เน้นการออกแบบอย่างอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ เป็นศิลปะที่ถูกนำมาต่อต้านศิลปะแบบ Modern Art โดยเอาศิลปะแบบคิทช์มาใช้เป็นเครื่องมือ
ยกตัวอย่างเช่น มาร์แซล ดูว์ช็อง ที่ใช้โถปัสสาวะมาเป็นผลงานศิลปะในงานจัดนิทรรศการ แน่นอนว่าคนในยุคนั้นย่อมปฏิเสธผลงานของเขาอยู่แล้ว จากอุปกรณ์กำจัดของเสีย จะถูกนับเป็นศิลปะได้อย่างไรกันล่ะ แต่ในเวลาต่อมานั้นก็ได้เกิดการตั้งคำถามเกิดขึ้นในวงการศิลปะ ว่าแท้จริงแล้วความหมายของคำว่า “ศิลปะ” คืออะไร ใครกันที่จะมีสิทธิ์ตัดสินว่าผลงานชิ้นนั้นใช่หรือไม่ใช่ศิลปะ…
แล้วถ้าศิลปะในงานบ้านเราล่ะ แบบไหนเรียกว่าคิทช์ ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์ “หัวใจทรนง” ปี 2547 ที่ใช้โทนสีฉูดฉาด แล้วใช้เสียงพากย์ทับอีกที โดยได้รับต้นแบบมาจากภาพยนตร์ยุคเก่าๆ ที่คนมองว่าเชยแต่กลับมาใช้เป็นแรงบันดาลใจซะงั้น
กลับมาที่เพลง Kitsch ของ IVE เราคิดว่ามันคือการสื่อว่าสาวๆ ทั้ง 6 คนเปรียบเป็นตัวตนที่ถูกมองว่า “คิทช์” จากคนกลุ่มนึง เพียงเพราะไม่ได้มีไลฟ์สไตล์อย่างเช่นการแต่งตัว การแสดงออก ที่เป็นไปตามความพึงพอใจของคนๆ นั้น สุดท้ายก็กลายเป็นสนามอารมณ์ของกลุ่มคนที่คิดว่าความคิดของตัวเองเป็นฝ่ายถูก หรือก็คือเพลงนี้พูดถึงพวกแอนตี้ IVE นั่นเอง นอกจากจะพูดตอกหน้าพวกแอนตี้แล้ว ยังเป็นการสื่อว่าไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบใด หรือชอบอะไรก็ตามแต่ นั่นก็คือตัวตนของคุณ อย่าได้ไปตีกรอบตัวเองเพียงเพราะคำพูดของคนอื่น ดังนั้นทุกคนมาใช้ชีวิตกันแบบอิสระ เหมือนกับศิลปะคิทช์ที่ถึงแม้จะถูกด้อยค่า (จากเพียงแค่คนกลุ่มนึง) แต่ก็ไร้กฎเกณฑ์
นอกจากนี้ใน MV ก็มีการแทรกสัญลักษณ์คำพูดไว้ไม่ว่าจะเป็น you’re so weird, don't change (คุณที่โคตรแปลก แต่ก็ไม่ต้องเปลี่ยน), แจ็คเก็ตที่ด้านหลังเขียนว่า “Book, not guns. Culture, not violence” (หนังสือ แทนปืน, วัฒนธรรม แทนความรุนแรง) ประโยคเด็ดจากเรื่อง The Dreamers (2003) หรือในเนื้อเพลงที่มีคำว่า OOTD ย่อมาจาก Outfit of The Day แปลว่า การแต่งตัวของวันนี้ เห็นได้ว่าตัวเพลงสอดคล้องกับเรื่องไลฟ์สไตล์ที่เราได้พูดถึงไปด้านบน
ก่อนที่จะจบบทความนี้เราขอหวีด IVE กันก่อน เริ่มจากวอนยองที่สวยมาก สวยขึ้นทุกคัม แถมเสียงวอนยองในเพลงนี้ก็ใช้โทนเสียงแตกต่างจากเพลงอื่นๆ น้องเก่งขึ้นมากๆ เลย, น้องเรย์ผมสีชมพู เหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะ ทั้งสวยทั้งแรปดุ ปริ่มใจสุดๆ, ยูจินที่โดดเด่นมากๆ สำหรับเพลงนี้ ร้องก็เพราะแถมเต้นโหดอีก สุดแสนประทับใจ, กาอึล พี่สาวที่มีท่อนร้องเยอะมากขึ้น มีอินเนอร์ดึงดูดคนดูสุดๆ, ลีซอ น่ารักเสมอ จะคอนเซ็ปต์ไหนก็เอาอยู่ เก่งขึ้นเรื่อยๆ เลย, ลิซ เมนโวคอลที่ได้ร้องแค่ไม่กี่วิ แต่ท่อนที่น้องร้องอยู่ในสวน ลิซสวยมากๆ ถ้าได้แอร์ไทม์เยอะกว่านี้น้องปังกว่าเดิมแน่นอน จบการอวยแต่เพียงเท่านี้ เรามารอไตเติ้ลต่อไปกันเถอะ!! อย่าลืมไปฟังเพลง Kitsch กันนะ ปั่นวิวและซ้อมเต้นรอคอนเสิร์ตกันดีกว่า~