เรื่อง Record of Ragnarok มหาศึกคนชนเทพ ใครเชียร์ฝั่งไหนกันบ้าง คุณคิดว่าฝ่ายมนุษย์หรือฝ่ายทวยเทพใครจะเป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้กัน แต่กว่ามังงะหรืออนิเมะจะจบคงใช้เวลากันอีกสักพัก อาจมีใครหลายคนลืมเลือนเหล่าตัวละครกันไปบ้างแล้ว วันนี้เราได้รวบรวมตัวละครฝั่งเทพเจ้าและข้อมูลว่าเทพองค์นี้เป็นใคร สามารถติดตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้ได้เลย
ธอร์ (Thor)
ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในเทพเก่าแก่ตามความเชื่อของอารยธรรมนอร์ซ (Norse) โดยเป็นบุตรของโอดิน (เทพเจ้าแห่งแอสการ์ด) และไฟออร์กิน (เทพีแห่งพื้นดิน) ว่ากันว่าเทพเจ้าธอร์เป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่และมีพละกำลังมหาศาล เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่หมดเพียงเท่านี้ในยุคสมัยไวกิ้ง ที่เต็มไปด้วยการก่อสงครามมากมาย ชาวสแกนดิเนเวียจะนับถือธอร์เป็นเทพเจ้าสงคราม
ใครหลายคนคงมีภาพจำว่าเทพเจ้าธอร์จะถือค้อนไว้เสมอ ซึ่งค้อนที่ว่านี้คือค้อน Mjölnir หากโยนไปที่ไหนก็จะมีสายฟ้าเกิดขึ้น และหากโยนออกไปเมื่อไหร่ ก็จะพุ่งกลับมาที่ผู้ใช้เสมอ
สำหรับในเรื่องธอร์เป็นตัวแทนต่อสู้คนที่ 1 ทางฝั่งเทพเจ้า มีคู่ต่อสู้เป็นลิโป้ โดยธอร์เป็นผู้ที่กระหายในการต่อสู้มากๆ และสามารถถือค้อนอันใหญ่ได้ด้วยมือเดียว ถึงขนาดเคยมีวีรกรรมที่ใช้ค้อนปราบกองทัพยักษ์มหาศาล เรียกได้ว่าค้อนของเขานอกจากทรงพลังแล้ว ธอร์ยังเคลื่อนที่รวดเร็วในขณะที่ถือค้อนอีกด้วย อีกหนึ่งอาวุธติดตัวของธอร์นั่นก็คือ ถุงมือ มีชื่อว่า Járngreipr สามารถต้านทานการโจมตี แถมยังมีไว้ใช้ป้องกันไม่ให้ Mjölnir ตื่นขึ้นมาอีกด้วย
ซุส (zeus)
ซุส เทพเจ้าแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า ผู้เป็นราชาที่มีอำนาจสูงสุดของเหล่าเทพเจ้ากรีก โดยมีสายฟ้าเป็นอาวุธและอาศัยอยู่บนเขาโอลิมปัส ซึ่งภาพตัวแทนของซุสที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ มักเป็นตัวละครชายแก่ สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น
ซุสเป็นตัวแทนเทพต่อสู้คนที่ 2 มีคู่ต่อสู้เป็นอดัม (ศึกสงครามระหว่างคนเป็นพ่อของเทพเจ้ากรีกกับพ่อของมวลมนุษย์) ถึงแม้ซุสจะมีรูปร่างเป็นชายชราแต่ก็ขยายกล้ามเนื้อได้ มีพละกำลังแข็งแกร่ง และยังเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว สามารถออกหมัดและเตะได้ภายในเวลา 0.01 วินาที ก่อนที่มันจะปรับไปถึง 0.00000001 วินาที! เห็นได้ว่าซุสมีศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่น่ากลัวมากจริงๆ
โพไซดอน (Poseidon)
โพไซดอนเป็นพี่ชายของซุส โดยโพไซดอนเป็นราชาแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร ปกครองทุกผืนน้ำ สามารถควบคุมน้ำได้ดั่งใจ มีอาวุธคู่กายเป็นตรีศูล หากตรีศูลนี้ปักลงสู่ทะเล ก็จะเกิดหายนะครั้งใหญ่หลวง คนที่เดินทางออกทะเลจะขอพรเพื่อให้เดินทางปลอดภัยเสมอ นอกจากนี้โพไซดอนยังเป็นเทพแผ่นดินไหวและเทพแห่งม้าอีกด้วย
โพไซดอนเป็นตัวแทนฝ่ายทวยเทพในการต่อสู้ครั้งที่ 3 มีคู่ต่อสู้เป็นซาซากิ โคจิโร่ ซึ่งโพไซดอนนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความน่ากลัว แม้แต่เทพด้วยกันเองยังบอกว่าน่ากลัวที่สุด เพราะเขามีจิตใจที่โหดเหี้ยม ไม่แยแสต่อคู่ต่อสู้ ส่วนด้านร่างกาย การเคลื่อนไหวก็อยู่ในระดับน่ากลัวไม่แพ้เทพอื่นๆ ขนาดที่ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นเป็นภาพติดตาทุกทิศทุกทาง และยังใช้ตรีศูลกระหน่ำโจมตีศัตรูเหมือนกับฝนตกลงมาอีกด้วย
เฮอร์คิวลีส (Hercules) หรือ เฮราคลีส (Heracles)
บุตรของซุสกับนางอัลคมีน เฮราคลีสเป็นครึ่งคนครึ่งเทพที่ถูกยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษจอมพลัง ในตำนานกล่าวว่าเขาเป็นชายผู้ใจร้อน ฆ่าลูกเมียของตน แต่ก็มีเหล่านักกวีที่สร้างภาพลักษณ์นอกเหนือจากตำนานโดยให้เฮราคลีสเป็นผู้ยึดมั่นในคุณธรรม ซึ่งสำหรับในเรื่องมหาศึกคนชนเทพก็ได้นำเสนอภาพลักษณ์เฮราคลีสว่าเป็นผู้มีคุณธรรม
เฮราคลีสเป็นตัวแทนฝ่ายเทพคนที่ 4 ต่อสู้กับ แจ็ค เดอะริปเปอร์ โดยนำเสนอเฮราคลีสในฐานะเทพที่รักมนุษย์ ถึงขนาดที่ยอมมาอยู่ฝ่ายเทพเพื่อปกป้องมนุษย์ให้รอดพ้นจากการถูกกำจัดโดยพวกเทพเจ้า รวมถึงไม่ได้เป็นลูกซุส แต่ดื่มน้ำอมฤตเข้าไปเลยมีพลังที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ในเนื้อเรื่องยังมีการใช้ท่าไม้ตายที่เกี่ยวข้องกับ 12 ประการ (โยงเข้ากับตามตำนานเดิมที่ว่าเฮราคลีสต้องทำภารกิจหลังจากที่ฆ่าลูกเมีย) โดยหากใช้ท่านี้จะยิ่งเพิ่มรอยสักตามตัว ยิ่งถ้าขยายเต็มตัวเมื่อไหร่ก็ทำให้เฮราคลีสตายได้
ศิวะ (Shiva)
พระศิวะหรือพระอิศวรที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นเทพแห่งการทำลายล้าง ผู้มีอำนาจสูงสุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และยังเป็นเทพแห่งการตายอีกด้วย เป็นบิดาของพระพิฆเนศ มีชายาคือพระแม่อุมา นอกจากนี้ตามตำนานเล่าว่าการเต้นรำของพระศิวะหมายถึงการสร้างโลก การให้โลกดำรงอยู่ และการทำลายโลก
สำหรับในเนื้อเรื่องพระศิวะเป็นตัวแทนฝ่ายเทพในการประลองครั้งที่ 5 โดยสู้กับไรเด็น ทาเคเมอน มีการนำเสนอถึงความชื่นชอบการเต้นรำของพระศิวะ และเป็นผู้ที่เอาชนะเทพฮินดูองค์อื่นๆ ได้หมด ในระหว่างการต่อสู้นั้นพระศิวะจะใช้ท่าการร่ายรำต่อสู้กับศัตรู ยิ่งร่ายรำรุนแรงเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มพลังและเผาผลาญศัตรูมากขึ้นเท่านั้น
เซโรฟุกุ (Zerofuku)
ตัวแทนฝ่ายเทพเจ้าในรอบที่ 6 ต่อสู้กับพระพุทธเจ้า โดยเซโรฟุกุเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคร้าย ที่มาจากการหลอมรวมเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7 คำว่าเซโรฟุกุ มีความหมายว่าโชคลาภเป็นศูนย์ ซึ่งก็สื่อถึงความโชคร้ายนั่นเอง แต่เดิมนั้นเป็นผู้ที่รักมนุษย์มากๆ จึงดึงดูดความโชคร้ายมาไว้ที่ตัวเองทั้งหมด แต่พระพุทธเจ้ากลับทำหน้าที่ในการสร้างความสุขให้กับมนุษย์ได้ดีกว่า เซโรฟุกุจึงเกิดความริษยาและต้องการทำลายมนุษย์ แต่ลึกๆ ก็มีความรักเหลืออยู่ เลยแบ่งตัวเองเป็นเทพเจ้านำโชคทั้ง 7 นั่นเอง
เซโรฟุกุสามารถถือขวาน “Misery Cleaver” ขนาดใหญ่ได้ ซึ่งขวานนี้จะขยายมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใหญ่ยิ่งมีพลังการทำลายล้างสูง และยังแปรเปลี่ยนเป็นดาบที่โจมตีศัตรูได้อย่างไม่หยุดหย่อนเหมือนกับว่าดาบมีชีวิต อย่างไรก็ตามตัวละครนี้ไม่ได้มาจากตำนาน แต่เป็นตัวละครที่ผู้เขียนเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเอง
ฮาเดส (Hades)
เทพเจ้ากรีกผู้ปกครองนรกและโลกหลังความตาย โดยคำว่า “ฮาเดส” หมายถึง ที่ไม่เคยพบเห็น ซึ่งก็สื่อถึงนรกที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นมาก่อน และยังเป็นเทพที่ร่ำรวยที่สุด เพราะปกครองทรัพย์สมบัติใต้พื้นพิภพทั้งหมด
ฮาเดสเป็นตัวแทนฝ่ายเทพในการต่อสู้รอบที่ 7 สู้กับจิ๋นซีฮ่องเต้ โดยเขาเป็นคนที่รักน้องมากๆ การต่อสู้ครั้งนี้จึงเป็นการแก้แค้นให้กับโพไซดอนที่ได้ตายไปแล้ว ถึงอย่างนั้นฮาเดสก็เป็นเทพที่มีความเยือกเย็น เคารพในคู่ต่อสู้ มีอาวุธคู่กายที่คล้ายๆ ตรีศูล แต่เป็นสองง่ามที่บิดเกลียวเข้ากัน เป็นหอกทรงพลังที่โจมตีศัตรูได้รุนแรงมากๆ
เบลเซบับ (Beelzabub)
ตามความเชื่อของชาวฟิลิสเตีย “เบลเซบับ” เป็นพญาแมลงวัน ผู้เป็นเทวทูตที่ตกสวรรค์ ส่วนตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ เชื่อว่าเป็นผู้ปกครองปีศาจทั้งมวล นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าว่าเป็นหนึ่งในเจ้าชายแห่งขุมนรก ที่เป็นสัญลักษณ์ของบาปแห่งตะกละอีกด้วย
เบลเซบับเป็นตัวแทนฝ่ายเทพเจ้าในรอบที่ 8 สู้กับนิโคลา เทสลา ซึ่งเบลเซบับเป็นเทพที่แปลกประหลาด ไม่สุงสิงกับใคร และไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งมากนัก เพราะอาจจะโดนสาปไปด้วย ส่วนเรื่องพลังนั้น เบลเซบับจะใช้แรงสั่นสะเทือนในการต่อสู้ ก่อเกิดเป็นระเบิดลูกใหญ่ โดยมีไม้เท้าหัวกะโหลกไว้สำหรับการขยายพลังนั่นเอง
อพอลโล (Apollo)
เทพแห่งแสงสว่าง เทพแห่งดวงอาทิตย์ และเป็นเทพแห่งการดนตรีอีกด้วย โดยอพอลโลถูกยกย่องว่าเป็นเทพที่มีรูปโฉมงดงามที่สุด จึงเป็นตัวแทนเพศชายของชาวกรีกนั่นเอง
อพอลโลได้ต่อสู้ในศึกครั้งที่ 9 กับลีโอไนดัส โดยเทพองค์นี้เป็นคนที่รักในความงามมากๆ เขาจะดูถูกคนที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน เป็นเทพที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะให้เรื่องความงามมาก่อนเสมอ
โอดิน (Ordin)
เทพสูงสุดในเทพปกรณัมนอร์ส เป็นผู้ทรงพลังที่สุดแห่งแอสการ์ด เป็นราชา Aesir ในตำนานนอร์สอีกด้วย ยังไม่หมดเพียงเท่านี้โอดินยังเป็นเทพเจ้าแห่งนักรบที่มาพร้อมปัญญา ความตาย และนำชัยชนะมาสู่ผู้ที่นับถือโอดิน
สำหรับในเรื่องเทพโอดินเป็นคนพูดน้อย จะใช้อีกาสองตัวที่อยู่บนไหล่สำหรับใช้สื่อสารแทน รวมถึงเป็นเทพที่สร้างความหวาดกลัวต่อผู้ที่อยู่รอบข้าง นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยพลังบ้างเล็กน้อยว่าสามารถทำให้พืชที่อยู่รอบตัวเหี่ยวเฉาได้
โลกิ (Loki)
โลกิ เทพแห่งการหลอกหลวง ที่มักสร้างวีรกรรมสุดแสบและสร้างความวุ่นวายไปทั่ว ในตำนานบ้างก็ว่าไร้เพศ บ้างก็ว่าเป็นได้ทั้งหญิงและชาย โดยตามสื่อบันเทิงต่างๆ จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มักแสดงภาพลักษณ์เทพโลกิออกมาในแบบบุคลิกจอมกวน
แม้แต่ในเรื่องมหาศึกคนชนเทพ โลกิก็มีบุคลิกจอมกวน ที่มองเรื่องการต่อสู้เป็นเรื่องตลก และคอยใช้คำพูดปั่นตลอด ส่วนอาวุธคู่กายของโลกิคือ อาวุธที่คล้ายเคียวแต่มีโซ่ยาวจับทั้งสองมือ ไว้สำหรับการต่อสู้ระยะไกล
นอกจากที่เราได้พูดถึงไปแล้วยังเหลืออีกสองเทพนั่นก็คือ ซูซาโนโอะ เทพเจ้าแห่งพายุตามความเชื่อของญี่ปุ่น และอะนูบิส เทพแห่งความตายของอียิปต์ หากในอนาคตมีการอัปเดตฝ่ายเทพเจ้าเมื่อไหร่ ทางเราจะมาอัปเดตให้ทุกคนได้อ่านกันอีกครั้ง สำหรับที่เราได้พูดถึงไป คุณชอบเทพองค์ไหนสุด และคิดว่าใครจะเป็นศึกชนะในครั้งนี้ระหว่างมนุษย์กับทวยเทพ ติดตามความสนุกนี้ได้ที่ Record of Ragnarok มหาศึกคนชนเทพ