สารบัญ
เวลาที่น้องแมวมีอาการป่วย นอกจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สังเกตได้ก็คือ เรื่องของปัสสาวะ หลายคนที่เลี้ยงแมว อาจจะเคยพบปัญหาเรื่องแมวฉี่เป็นเลือดบ้าง แมวฉี่น้อยบ้าง ซึ่งการปัสสาวะของแมวแบบนี้บ่งบอกว่าแมวเสี่ยงเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ว่าแต่โรคนี้คืออะไร แล้วถ้าแมวฉี่ออกเป็นเลือด มีวิธีรักษาเบื้องต้นไหม มาดูกัน
โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว คืออะไร
โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว หรือ Feline Lower Urinary Tract Disease (FLUTD) คือ คำที่ใช้อธิบายรวมในกลุ่มอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณระบบทางเดินปัสสาวะ หรือตรงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะของแมว
สาเหตุของโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว
ทีนี้มาดูสาเหตุกันว่าทำไมน้องแมวถึงเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง โดยมีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
- นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะซึ่งเกิดได้กับแมวทุกวัย โดยเกิดจากการสะสมของตะกอนและแร่ธาตุ มีสาเหตุจากเรื่องอาหารที่แมวกิน แมวอั้นฉี่ แมวกินน้ำน้อย
- ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเกิดจากการที่แบคทีเรียเข้าไปแพร่พันธุ์ในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
- การอุดตันของท่อปัสสาวะเป็นปัญหาสุขภาพที่มีความเสี่ยงสูงที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้ โดยแมวเพศผู้จะมีความเสี่ยงเป็นท่อปัสสาวะอุดตันสูงกว่าตัวเมีย เพราะมีท่อปัสสาวะที่แคบและยาวกว่านั่นเอง
- โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ทราบสาเหตุในแมวหรือ Feline idiopathic cystitis (FIS) เป็นลักษณะของโรคที่มีความทับซ้อน จึง “ไม่ทราบสาเหตุ” ที่แน่ชัด สาเหตุอาจมาจากการสะสมความเครียดของน้องแมว
- มีเนื้องอกหรือเป็นมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะซี่งอันตรายมากๆ กับตัวแมว
- บาดเจ็บบริเวณระบบทางเดินปัสสาวะจากอุบัติเหตุ
- น้ำหนักเกินหรือมีอายุเยอะ โดยจะเกิดขึ้นกับแมวที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย
พฤติกรรมแมวที่เสี่ยงเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว
รู้สาเหตุที่ทำให้น้องแมวเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างกันไปเรียบร้อย แล้วพฤติกรรมแมวแบบไหนบ้างล่ะที่เป็นสัญญาณเตือนว่าน้องแมวป่วยเป็นโรค FLUTD อยู่ โดยสามารถสังเกตพฤติกรรมแมวได้ตามนี้
ปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ
ถ้าแมวป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง น้องแมวจะมีอาการปัสสาวะ ดังนี้
- ปัสสาวะบ่อย แต่ออกมานิดเดียว
- ส่งเสียงร้องในขณะที่ปัสสาวะ
- ในปัสสาวะมีเลือดปน
- ปัสสาวะนาน
เห็นได้ว่าแมวฉี่เป็นเลือดไม่ใช่เพียงอาการเดียว ที่เป็นสัญญาณเตือนว่าน้องเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง แต่ยังมีอาการปัสสาวะอื่นๆ ที่เจ้าของแมวไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
ปัญหาอื่นๆ
นอกจากจะสังเกตเรื่องปัสสาวะของแมวแล้ว ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ของแมวที่กำลังบ่งบอกเจ้าของว่าตัวเองกำลังป่วย มีดังนี้
- เลียบริเวณอวัยวะเพศบ่อยๆ เกินผิดปกติ (บ่งบอกว่ากำลังเจ็บ)
- เดินเข้าออกกระบะทรายบ่อยครั้ง
- ซึม ไม่ร่าเริง
- ไม่ค่อยกินอาหาร
- ปัสสาวะในบริเวณที่ไม่เคยฉี่มาก่อน
- ปัสสาวะนอกกระบะทราย
วิธีการรักษาเบื้องต้น
อย่างไรก็ตามหากพบว่าน้องเหมียวของเรามีอาการดังที่บอกไป ต้องพาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อที่หมอจะได้วินิจฉัยโรคและรักษาได้อย่างตรงจุด โดยส่วนใหญ่นั้น หมอจะให้การรักษาด้วยการให้ยา หรือบางเคสที่เป็นโรคร้ายแรงก็ต้องผ่าตัดเพื่อรักษา
เหล่าทาสนุดแมว สามารถป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้น้องแมวเกิดโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้ โดยเริ่มจากการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ให้น้องเกิดความเครียด ทำความสะอาดกระบะทรายบ่อยๆ เตรียมอาหารให้ถูกตามหลักโภชนาการ ทั้งอาหารเม็ด อาหารเปียก (ไม่ควรทานแบบใดแบบหนึ่งติดกันนาน) และลดอาหารที่มีส่วนประกอบจำพวกแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เพราะถ้ากินเยอะส่งผลต่อการเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงคอยควบคุมน้ำหนักน้องไม่ให้อ้วนเกินไป แล้วที่สำคัญควรตั้งน้ำไว้หลายจุด เพื่อกระตุ้นให้น้องแมวกินน้ำบ่อยๆ
นอกจากนี้บ้านไหนที่มีแมวหลายตัว โดยเฉพาะตัวผู้ หากน้องไม่ได้ทำหมันจะมีอารมณ์เกรี้ยวกราด อาจทำให้บางตัวเกิดอาการเครียด หรือเซื่องซึมได้ และเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแบบไม่ทราบสาเหตุในแมว ถ้าน้องแมวซึม ต้องแยกน้องจากแมวตัวอื่นๆ ด้วยนะ หากใครสนใจเรื่องการทำหมันแมว ทำความเข้าใจมากขึ้นได้ที่ ENNXO BLOG
ก่อนจะจบบทความนี้หากๆ เพื่อนอยากรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับแมวมากขึ้น ทางเอ็นโซ่มีบทความเรื่องแมวให้เลือกอ่านอีกมากมาย รวมถึงหากต้องการซื้อขายแมวก็ทำได้เช่นกัน เพราะที่ ENNXO เป็นตลาดแมวออนไลน์ ให้ลงประกาศฟรี มีให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์