วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับอนิเมะเรื่อง Bungo Stray Dogs หรือที่ใครหลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่าบุงโก เป็นอนิเมะที่น่าสนใจมากๆ แต่น่าเสียดายอนิเมะแมสแค่บางกลุ่มเท่านั้น หากใครได้เข้ามาอ่านแล้ว เราอยากชวนคุณให้ดูอนิเมะเรื่องนี้ มาเพิ่มความอยากดูด้วยการอ่านความน่าสนใจของบุงโกกัน รวมถึงใครที่เป็นแฟนบุงโกอยู่แล้ว มารู้จักบุงโกกันมากขึ้นได้ที่นี่
Bungo Stray Dogs อนิเมะเกี่ยวกับอะไร
อนิเมะ Bungo Stray Dogs หรือชื่อภาษาไทยว่า คณะประพันธกรจรจัด ดัดแปลงมาจากผลงานเขียนมังงะแนวแอ็กชันของ Kafka Asagiri วาดภาพประกอบโดย Sango Harukawa ซึ่งเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาในฉบับมังงะ ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2012 บนนิตยสาร Young Ace จัดจำหน่ายโดย Kadokawa Shoten ต่อมามีฉบับไลท์โนเวล ตีพิมพ์ในปี 2014 สามารถติดตามทั้งสองฉบับนี้ได้ที่สำนักพิมพ์ Luckpim และ Phoenix
ฉบับอนิเมะเริ่มฉายซีซันแรกในปี 2016 ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ซีซันด้วยกัน และในเดือนกรกฎาคมนี้ก็ต่อด้วยซีซัน 5 บอกเลยว่าปี 2023 ชาวบุงโกได้รับชมความสนุกกันอย่างต่อเนื่อง แอบสปอยล์ว่าซีซันนี้แหละที่สุดของความมันส์! ติดตาม Bungo Stray Dogs ได้ที่ Netflix, Bilibili, Prime Video, AIS PLAY, iQIYI
เรื่องย่อ: ในเมืองโยโกฮาม่ามีองค์กรเอกชนสองขั้วอำนาจใหญ่ก็คือ องค์กรนักสืบพิเศษ ที่ใช้วิธีแบบถูกกฎหมาย กับองค์กรพอร์ต มาเฟีย กลุ่มรวมนักฆ่าที่ใช้วิธีขัดกับความถูกต้อง ทั้งสององค์กรนี้ถึงแม้จะไม่ถูกกัน แต่ก็มีอุดมการณ์เหมือนกันนั่นคือ การปกป้องเมืองโยโกอาม่าเมืองที่รักแห่งนี้ โดยส่วนใหญ่คนในองค์กรทั้งสองจะเป็นผู้ใช้พลังพิเศษและมีความสามารถเฉพาะ
เริ่มเรื่องด้วยนาคาจิมะ อัตสึชิ เด็กหนุ่มที่อยู่ในสภาพหิวโซ เพราะถูกไล่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ได้มาพบกับ ดาไซ โอซามุ ที่พยายามฆ่าตัวตาย แต่อัตสึชิก็ช่วยเหลือไว้ทัน แล้วทั้งคู่ก็ได้เข้าไปพัวพันกับคดีล่าเสือโคร่งสีขาว อัตสึชิจึงถูกชวนเข้ากลุ่มองค์กรนักสืบพิเศษ การใช้ชีวิตครั้งใหม่ของอัตสึชิก็ได้เปิดม่านขึ้นแล้ว…
ทีนี้เรามาดูความน่าสนใจของเรื่องกัน อันดับแรกกับชื่อเรื่องสะดุดตา โดยคำว่า “Bungo” ในภาษาญี่ปุ่น หมายความว่า นักเขียนงานวรรณกรรมผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งนักเขียนวรรณกรรมคลาสสิกที่โด่งดังทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อตัวละครในเรื่อง เป็นเหมือนการนำเหล่านักประพันธ์มาประชันกัน โดยใช้พลังพิเศษและหลักจิตวิทยาในการต่อสู้
สำหรับในเรื่องดำเนินเหตุการณ์อยู่ในเมืองโยโกฮาม่า เป็นเมืองท่าแห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นจุดยุทธศาสตร์และศูนย์รวมการรับวัฒนธรรมใหม่ๆ จากชาวต่างชาติ แถมยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและแบบใหม่อีกด้วย ซึ่งสถานที่ที่เห็นกันในเรื่องนั้นมีอยู่จริงทั้งนั้น แฟนๆ บุงโกถ้าได้ไปญี่ปุ่นอย่าลืมไปตามรอยกันนะ แต่ความน่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ การที่ผู้เขียนใช้เมืองโยโกฮาม่าเป็นจุดดำเนินเรื่องนั้น ก็มาจากการที่เหล่านักประพันธ์คนสำคัญมีจุดเชื่อมโยงกับเมืองโยโกฮาม่านั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น “ฟุคุซาวะ ยูคิจิ” สนใจวัฒนธรรมตะวันตกจากการเข้ามาของเรือรบนายพลเมทธิว เพอร์รี่ (Matthew Pery) ที่ท่าเรือโยโกฮาม่า ทำให้เขาไปสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อเอาวิทยาการใหม่ๆ มาเผยแพร่ในญี่ปุ่น, “โมริ โอไก” ผู้แต่งเพลงเมืองโยโกฮาม่า, “ทานิซากิ จุนอิจิโร่” มีบ้านอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า, “ดาไซ โอซามุ” พยายามฆ่าตัวตายครั้งแรกที่เมืองโยโกฮาม่า และ “นากาจิมะ อัตสึชิ” เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่เมืองโยโกฮาม่า เป็นต้น
นักเขียนวรรณกรรม แรงบันดาลใจสุดคลาสสิกที่ปรากฏในตัวละคร
อย่างที่เราได้บอกไปว่าชื่อของตัวละครส่วนใหญ่มาจากชื่อนักเขียนวรรณกรรมที่มีอยู่จริง นอกจากนี้เสน่ห์ของเรื่องนี้ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ก็คือชื่อพลังที่เมื่อถูกแปลออกมาเป็นภาษาไทย กลายเป็นคำสวยที่ต้องยกนิ้วให้เลย ซึ่งชื่อพลังนี้ก็มาจากชื่อผลงานของเหล่านักประพันธ์นั่นเอง โดยเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับตัวละครหลัก พร้อมที่มาของชื่อบุคคลสำคัญกัน
ตัวละครนักสืบพิเศษบุโซ
ฟุคุซาวะ ยูคิจิ หัวหน้าขององค์กรนักสืบพิเศษ พลังพิเศษคือ มนุษย์ล้วนเท่าเทียมกัน สามารถควบคุมพลังของคนที่เป็นสมาชิกองค์กรได้ “ฟุคุซาวะ ยูคิจิ” (1835-1901) บุคคลที่อยู่ในแบงค์หมื่นเยนของญี่ปุ่น เป็นนักปรัชญายุคเมจิ มีส่วนสำคัญในการปฏิรูปการศึกษา ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคโอ และนำวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาพัฒนาญี่ปุ่น
นาคาจิมะ อัตสึชิ เด็กหนุ่มกำพร้าที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีคุณค่า พลังพิเศษคือ สัตว์ร้ายใต้แสงจันทร์ สามารถแปลงกายเป็นเสือโคร่งได้ ฟื้นฟูร่างกายได้เร็ว ที่มาของชื่อมาจาก “นาคาจิมะ อัตสึชิ” (1909-1942) นักเขียนญี่ปุ่นชื่อดัง ผลงานส่วนใหญ่ของเขาอิงจากงานเขียนจีน ซึ่งมีผลงานรวมเรื่องสั้นชื่อว่า “ตำนานใต้แสงจันทร์”
ดาไซ โอซามุ ชายหนุ่มที่พยายามฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง มีพลังพิเศษคือ สูญสิ้นมนุษยสมบัติ สามารถลบพลังพิเศษของผู้อื่นได้ ที่มาของชื่อมาจาก “ดาไซ โอซามุ” (1909-1948) นักเขียนนวนิยายชื่อดังญี่ปุ่น มีผลงานโด่งดังชื่อว่า สูญสิ้นความเป็นคน ถูกยกว่าเป็นผลงานคลาสสิกยุคใหม่ที่พูดถึงประเด็นถึงความดำมืดในจิตใจมนุษย์ นอกจากนี้ชีวิตของดาไซยังพบเจอปัญหามากมาย ทำให้เขาพยายามฆ่าตัวตายหลายรอบ แต่ก็ไม่สำเร็จสักครั้ง
คุนิคิดะ ดปโปะ ผู้ที่รักในความเป็นอุดมคติ พลังพิเศษคือ ยอดกวีร่ายคำ สามารถเขียนสิ่งที่ต้องการออกมาได้ด้วยการเขียนลงไปในกระดาษสมุด “คุนิคิดะ ดปโปะ” นามปากกาของคุนิคิดะ เท็ตสึ (1871-1908) กวีญี่ปุ่นชื่อดังในยุคเมจิ ที่แต่งบทกวีออกมาได้ไพเราะ มีหนังสือที่รวมผลงานของเขาชื่อว่า “Doppo Gin”
เอโดงาวะ รัมโป มีสติปัญญาเป็นเลิศ ไขคดีได้ทุกเรื่อง โดยเขาไม่มีพลังพิเศษ ที่มาของชื่อมาจากนามปากกาของ ฮิราอิ ทาโร่ (1894-1965) นักเขียนนิยายสืบสวนแนวสยองขวัญชื่อดังของญี่ปุ่น แถมยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับชื่อ เอโดะงาวะ โคนัน ในเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนันอีกด้วย
ทานิซากิ จุนอิจิโร่ ธุรการประจำองค์กร พลังพิเศษคือ ละอองหิมะโปรยปราย สามารถสร้างภาพลวงตาเพื่อหลอกศัตรูได้ ที่มาของชื่อมาจาก “ทานิซากิ จุนอิจิโร่” (1886-1965) นักประพันธ์ชื่อดังในยุคโมเดิร์นของญี่ปุ่น เป็นผู้ที่ลุ่มหลงในร่างสตรี ซึ่งความหลงใหลนี้เขาได้นำมาพรรณนาลงในงานเขียนได้อย่างงดงาม
มิยาซาวะ เคนจิ เด็กหนุ่มที่มองโลกในแง่ดี พลังพิเศษคือ ไม่พ่ายแพ้ต่อสายฝน เป็นพลังเหนือมนุษย์ เพราะมีพละกำลังมหาศาล ที่มาของชื่อมาจาก “มิยาซาวะ เคนจิ” (1896-1933) นักเขียนวรรณกรรมเยาวชน แถมยังก่อตั้งสหกรณ์การเกษตรราสุในจังหวัดอิวาเตะ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนที่ทำอาชีพชาวนา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเคนจิเองด้วย ดังนั้นตัวละครในเรื่องบุงโกจึงมีคาแรคเตอร์แต่งตัวเป็นชาวเกษตรนั่นเอง
โยซาโนะ อากิโกะ แพทย์หญิงประจำองค์กร พลังพิเศษคือ แก้วตาอย่าอาสัญ สามารถรักษาได้ทุกอาการ ที่มาของชื่อมาจากนามปากกาของ โฮ ชิโย (1878-1942) นักประพันธ์หญิงที่พาใครหลายคนเข้าสู่โลกของวรรณกรรม แถมยังเป็นบุคคลสำคัญที่ปฏิรูปด้านการศึกษาให้สตรีอีกด้วย
อิสึมิ เคียวกะ เคยเป็นมือสังหารของฝ่ายพอร์ตมาเฟีย พลังพิเศษคือ อสุรีหิมะขาว เรียกปีศาจหิมะออกมาต่อสู้ได้ “อิสึมิ เคียวกะ” เป็นนามปากกาของอิสุมิ เคียวทาโร (1873-1939) นักประพันธ์ผู้มากฝีมือ มีผลงานทั้งนวนิยาย เรื่องสั้น บทคาบุกิ ถึงเขาจะมีชีวิตอยู่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่งานเขียนของเขากลับได้รับอิทธิพลมาจากสมัยเอโดะ โดยผลงานของเขาส่วนใหญ่เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ตำนานภูตผีปีศาจ
ตัวละครองค์กรพอร์ตมาเฟีย
โมริ โอไง หัวหน้าองค์กร มีพลังพิเศษ วีตา เซ็กซ์ชวลลิส มีเอลิสเป็นผู้ช่วย ที่มาของชื่อมาจากนามปากกาของ โมริ รินทาโร (1862-1922) นักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นทั้งกวีและศัลยแพทย์ในกองทัพญี่ปุ่น และเป็นผู้ริเริ่มการเขียนแบบอัตชีวประวัติ ผลงานของเขาเช่น Vita Sexualis, สาวน้อยเริงระบำ
อะคุตะงะวะ ริวโนะสุเกะ พลังพิเศษคือ ราโชมอน สามารถเปลี่ยนเสื้อคลุมสีดำให้กลายเป็นปีศาจจัดการกับคู่ต่อสู้ได้ “อะคุตะงะวะ ริวโนะสุเกะ” (1892-1927) เป็นนักเขียนเจ้าของผลงานชื่อดัง ‘Rashomon’ และถูกยกให้เป็นราชาเรื่องสั้น ที่เนื้อเรื่องเน้นไปทางน่ากลัวแบบแปลกใหม่
นากาฮาระ ชูยะ พลังพิเศษคือ ความเศร้าเคล้ามลทิน สามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงได้ “นากาฮาระ ชูยะ” (1907-1937) นักกวียุคโชวะ ที่ได้แต่งบทกลอนชื่อเดียวกับพลัง พูดถึงความเศร้าที่ไม่มีอะไรมาเยียวยาได้
ฮิกุจิ อิจิโย ไม่มีพลังพิเศษแต่ยิงปืนได้อย่างแม่นยำ “ฮิกุจิ อิจิโย” นามปากกาของฮิกุจิ นัตสึ (1872-1896) นักเขียนหญิงอายุน้อยที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นคลาสสิกในการเขียน ทำให้การแปลภาษางานของเธอนั้นถือว่ายากเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นสตรีที่อยู่บนธนบัตรห้าพันเยนอีกด้วย
คาจิอิ โมโตจิโร มือระเบิดขององค์กร มีพลังพิเศษคือ ระเบิดเลมอน “คาจิอิ โมโตจิโร” (1901-1932) นักเขียนยุคโชวะตอนต้น ที่ใช้ภาษาได้งดงาม แต่มีความหมายที่หดหู่ ผลงานที่มีชื่อเสียงก็คือเรื่อง “เลมอน” มีคนเลียนแบบอย่างในเนื้อเรื่องด้วยล่ะ
ฮิโรสึ ริวโร หัวหน้าหน่วยกิ้งก่าดำ มีพลังพิเศษคือ สึบากิสลัดกลีบ เพิ่มพลังตรงจุดที่ชกเข้าไป “ฮิโรสึ ริวโร” นามปากกาของฮิโรสึ นาโอโตะ (1861-1928) เป็นผู้บุกเบิกงานวรรณกรรมแนวโศกนาฏกรรม ซึ่งมีผลงานชื่อว่า “กิ้งก่าดำ” กับ “สึบากิร่วงโรย”
โอซากิ โคโย หนึ่งในผู้บริหารขององค์กร มีพลังพิเศษคือ อสุรีสีทอง เรียกปีศาจออกมาต่อสู้ได้ ที่มาของชื่อมาจากนามปากกาของโอซากิ ทาคุทาโร (1868-1903) นักกวีผู้เป็นอาจารย์ของอิสุมิ เคียวกะ มีผลงานชื่อว่า “อสูรสีทอง” ดังนั้นในเนื้อเรื่องเราเห็นได้ว่าตัวละครนี้จะเอ็นดูอิสุมิ เคียวกะ เป็นพิเศษ
โอดะ ซาคุโนะสุเกะ มีพลังพิเศษคือ พิมลผ่องแผ้ว สามารถรับรู้เหตุการณ์ก่อนหน้าได้ไม่กี่วิ “โอดะ ซาคุโนะสุเกะ ” (1913-1947) กวีที่ถูกจัดเป็นประเภทบุไรฮะ (ปฏิปักษ์ต่อสังคม) ถึงแม้ผลงานของเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ภายหลังก็มีนำไปทำเป็นภาพยนตร์
ตัวละครองค์กรกิลด์ (องค์กรใต้ดินสหรัฐ)
องค์กรกิลด์ เป็นองค์กรชาวต่างชาติ ที่เข้ามาในโยโกฮาม่า เพื่อตามหาหนังสือที่เขียนอะไรก็เป็นจริง ดังนั้นชื่อตัวละครจึงได้แรงบันดาลมาจากนักเขียนต่างประเทศ
ฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ฟิตช์เจอรัลด์ หัวหน้าองค์กร พลังพิเศษคือ แก็ตสบี้ผู้ยิ่งใหญ่ สามารถเพิ่มพลังได้ตามจำนวนเงินที่จ่าย ที่มาของชื่อนั้นมาจาก “เอฟ. สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ (1896-1940)” นักเขียนชาวอเมริกันที่สำคัญ มีผลงานเรื่อง “The Great Gatsby” เป็นหนังสือยุคแจ๊สที่ได้รับการยอมรับ โดยเขาได้สูญเสียภรรยาสุดที่รักไป เหมือนกับในเรื่องที่ตัวละครนี้สูญเสียภรรยาเช่นเดียวกัน
ลูซี่ โมด มอนโกเมอรี่ มีพลังพิเศษ แอนน์แห่งห้องสีชาด ตั้งชื่อตัวละครตาม Lucy Maud Montgomery (1874-1942)
มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ มีพลังพิเศษคือ วิมานลอย ตั้งชื่อตัวละครตาม Margaret Mitchell (1900-1949)
นาธาเนียล ฮอว์ธอร์น มีพลังพิเศษคือ อักษรโลหิต ตั้งชื่อตัวละครตาม Nathaniel Hawthorne (1804-1864)
จอห์น สไตน์เบ็ก มีพลังพิเศษคือ ผลพวงแห่งความคับแค้น ตั้งชื่อตัวละครตาม John Steinbeck (1902-1968)
มาร์ก ทเวน มีพลังพิเศษคือ การผจญภัยของฮักเคิลเบอร์รี่ ฟินน์ ตั้งชื่อตัวละครตาม Mark Twain (1835-1910)
ลุยซา เมย์ อัลคอตต์ มีพลังพิเศษคือ สี่ดรุณี ตั้งชื่อตัวละครตาม Louisa May Alcott (1832-1888)
ตัวละครห้าลางสิ้นเทวา
กลุ่มศัตรูที่ปรากฏในซีซัน 4 มีเป้าหมายคือตามหาหนังสือที่สามารถเขียนในสิ่งที่ต้องการได้ และมีเป้าหมายคือล้างโลกที่เป็นอยู่ตอนนี้ มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน สมาชิกยังคงเป็นปริศนาอยู่
ฟิโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี หัวหน้าของห้าลางสิ้นเทวา มีพลังพิเศษคือ อาชญากรรมกับการลงทัณฑ์ ตั้งชื่อตาม Fyodor Dostoevsky (1821-1881) นักเขียนชาวรัสเซียที่เน้นเขียนความคิดตัวละครแบบสุดโต่ง เขามีชื่อผลงานเหมือนกับชื่อพลัง
ตัวละครสารวัตรทหาร
กลุ่มตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อยของเมืองโยโกฮาม่า จัดการกับกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ เป็นหน่วยแข็งแกร่งของทางรัฐบาลที่ตัดสินทุกอย่างด้วยความถูกต้องเสมอ มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน นอกจากนี้ยังมีหน่วยที่ 7 ที่คอยจัดการปัญหาต่างๆ แต่ใช้วิธีที่รุนแรงกว่า โดยกลุ่มนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่