แมวสฟิงซ์ (Sphynx) มีกี่สายพันธุ์ แมวหนังไก่ไม่มีขนเกิดจากอะไร?

แมวสฟิงซ์ (Sphynx) มีกี่สายพันธุ์ แมวหนังไก่ไม่มีขนเกิดจากอะไร?

ENNXO
/
Blog
/
แมวสฟิงซ์ (Sphynx) มีกี่สายพันธุ์ แมวหนังไก่ไม่มีขนเกิดจากอะไร?

แชร์

Share on Line
อัพเดทล่าสุด: 21 ม.ค. 2568

แมวสฟิงซ์ (Sphynx) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แมวไร้ขน” “แมวฟาโรห์” เป็นสายพันธุ์แมวที่มีลักษณะโดดเด่นอย่างชัดเจนเรียกว่าแค่เห็นก็รู้ได้ทันที แต่เมื่อพูดถึงแมว Sphynx หลายคนก็มักจะคุ้นเคยกับประวัติความเป็นมาของเจ้าแมวไม่มีขนนี้ที่เชื่อมโยงกับตำนานอียิปต์โบราณอยู่เสมอ แต่แท้จริงแล้วสฟิงซ์แมวหนังไก่พันธุ์นี้จะเกี่ยวข้องอย่างไรนั้นไปติดตามพร้อมกันได้เลยในบทความนี้ รวมทั้งทำความรู้จักลักษณะของแมวสฟิงซ์น่ารักๆ ว่ามีนิสัยอย่างไร และไขข้อสงสัยว่าแมวสฟิงซ์มีกี่สายพันธุ์กันแน่ อย่ารอช้าไปดูกันเลยว่าแมวสฟิงซ์มีขนไหม!

sphynx cat egyptian cat god

ประวัติแมวสฟิงซ์ ไร้ขนเกิดจากอะไร?

แมวสฟิงซ์ Sphynx พันธุ์แมวไม่มีขนที่มีรูปลักษณ์ต่างออกไปจากลักษณะแมวพันธุ์อื่นๆ และเป็นแมวที่ได้รับความนิยมจากชาวทาสอยู่ไม่น้อยเพราะโดนตกจากความน่ารักและนิสัยขี้เล่นของพวกมัน

แมวสฟิงซ์เป็นสายพันธุ์ที่ดัดแปลงมาจากแถบประเทศยุโรป โดยต้นกำเนิดของแมวสฟิงซ์มาจากประเทศแคนาดาในรัฐโทรอนโตได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1966 เดิมทีพบเป็นแมวบ้านที่มีลักษณะไม่มีขน เมื่อผู้คนพบเห็นจึงพากันเรียกว่าแมวไร้ขน ต่อมาได้นำไปเพาะพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์จนปัจจุบันสฟิงซ์เป็นพันธุ์แมวที่ถูกแบ่งแยกเป็น 2 สายตระกูลหลักๆ ตามแหล่งกำเนิด นั่นคือ แมวสฟิงซ์จากมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา และสายพันธุ์ดั้งเดิมที่แคนาดา ซึ่งแมวสฟิงซ์ไม่มีขนเกิดจากพันธุกรรม

ประวัติแมวสฟิงซ์เกิดจากอะไร

ทำไมแมว Sphynx ถึงถูกเรียกว่า “แมวฟาโรห์”

ถ้าจะพูดว่าสฟิงซ์แมวพันธุ์ไม่มีขนนั้นมีอายุความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณก็ไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะจริงๆ ยังไม่มีหลักฐานปรากฏว่าแมวพันธ์ุสฟิงซ์อยู่ในช่วงเวลานั้น แล้วทำไม Sphynx จึงถูกเรียกว่า “แมวฟาโรห์”

เหตุผลที่แมวสฟิงซ์ถูกเรียกแบบนั้นน่าจะมาจากสาเหตุที่ลักษณะที่ไม่มีขนปกคลุมลำตัว เป็นแมวที่มีกล้ามเนื้อรูปร่างกะทัดรัด ทั้งยังมีลักษณะแปลกตาผิดจากแมวพันธุ์ทั่วไปแต่กลับไปละม้ายคล้ายกับเทพีบัสเตต (Bastet) รูปปั้นเทพเจ้าแมวตามความเชื่อเก่าแก่ของอียิปต์นั่นเอง

นอกจากนี้แล้วชื่อ Sphynx นั้นก็ได้รับอิทธิพลมาจากมหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) ประติมากรรมสัตว์ประหลาดโบราณที่มีหัวเป็นมนุษย์ ลำตัวเป็นสิงโต และมีปีกเป็นนก จึงกลายไปเป็นชื่อเรียกของแมวไม่มีขนสายพันธุ์นี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยแท้จริงแล้วคำว่า Sphynx ที่ใช้เรียกชื่อแมวนั้นมาจากการเรียกขานกลุ่มแมวไม่มีขนในพื้นที่ต้นกำเนิดนั่นคือประเทศแคนาดา เรียกเต็มๆ ว่า แคนาเดียน สฟิงซ์ (Canadian Sphynx) ทีนี้เพื่อนๆ ที่ได้อ่านบทความก็ได้รู้กันแล้วว่าแมวที่ไม่มีขนอย่างสฟิงซ์นั้นไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงของฟาโรห์จริงๆ ตามที่ได้ยินมา

แมวสฟิงซ์มีกี่สายพันธุ์

สายพันธุ์แมวสฟิงซ์มีกี่ชนิด

ก่อนจะไปตอบคำถามว่าแมวสฟิงซ์มีกี่ประเภท? ต้องรู้ก่อนว่าคำว่า Sphynx นั้นเป็นคำนิยามแบบกว้างที่ใช้เรียกแมวไม่มีขนของกลุ่มคนในประเทศแคนาดาอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้นประเภทสายพันธุ์แมวสฟิงซ์ที่รวบรวมมาให้ล้วนเป็นแมวไร้ขนแต่ต่างแหล่งกำเนิด และมีการผสมดัดแปลงพันธุกรรมที่ต่างกันจึงทำให้ชื่อเรียกสายพันธุ์ไม่เหมือนกันไปด้วย

โดยแมวสฟิงซ์แต่ละสายพันธุ์นั้นจะมีลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ที่เด่นชัดที่สุดคือเป็นแมวไม่มีขนเหมือนกัน ทั้งนี้ในการจำแนกสายพันธุ์แมวสฟิงซ์นั้นยังมีความซับซ้อนและเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เนื่องจากการผสมข้ามสายพันธุ์ เอาเป็นว่าไปดูแมวสฟิงซ์ 4 สายพันธุ์ยอดนิยมว่ามีอะไรบ้าง

สฟิงซ์ Sphynx

แมวพันธุ์สฟิงซ์สายพันธุ์ต้นกำเนิดจากประเทศแคนาดา หรือเรียกว่า แคนาเดียน สฟิงซ์ เป็นแมวไร้ขนหนังไก่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ดอนสคอย Donskoy

แมวไม่มีขนพันธุ์ดอนสคอย มีต้นกำเนิดมาจากประเทศรัสเซีย มีขนาดเล็กกว่าสายพันธุ์แคนาเดียนสฟิงซ์

ปีเตอร์บัลด์ Peterbald

แมวพันธุ์ปีเตอร์บัลด์เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวโอเรียนทัลช็อตแฮร์กับแมวไร้ขนดอนสกอย มีต้นกำเนิดมาจากประเทศรัสเซีย

แบมบิโน่ Bambino

เป็นแมวสฟิงซ์ขาสั้นที่ย่อส่วนลงมาเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างสฟิงซ์กับแมวมันช์กิ้น มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ยังมีผองเพื่อนแมวสฟิงซ์อีกหลายสายพันธุ์ที่เกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรมจากหลากหลายฟาร์มทั่วโลก อ่านบทความแมวไม่มีขนพันธุ์อะไรที่ ENNXO BLOG

แมว Sphynx ลักษณะนิสัย และการดูแล

ลักษณะแมวสฟิงซ์ ดัดแปลงพันธุกรรมอย่างไร

ข้อมูลเบื้องต้นแมวสฟิงซ์ (Sphynx)

อายุเฉลี่ย

15-20 ปี

โตเต็มวัย

อายุ 10 เดือน

น้ำหนัก

3-5 กิโลกรัม

ส่วนสูง

20-25 เซนติเมตร

ลักษณะขน

ไร้ขน

จุดเด่น

ลำตัวเพียว มีกล้ามเนื้อชัด

ลักษณะทางกายภาพของแมวสฟิงซ์ แท้ดูได้อย่างไร? ให้สังเกตที่ลำตัวขนาดใหญ่แต่เพรียวกะทัดรัด ดูแข็งแรงเพราะมีกล้ามที่ชัดจึงจะพบเห็นแมวสฟิงซ์อ้วนได้น้อย ที่สำคัญต้องมีใบหูที่ยาวตั้งตรงโดยเฉพาะลูกแมวสฟิงซ์จะหูยาวคล้ายเอลฟ์ มีดวงตากลมใหญ่นัยย์ตาสองสี หางยาวเรียว มีช่วงหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม และโหนกแก้มยกกระชับ

หากมองด้วยตาแล้วแมว Sphynx ดูเหมือนไม่มีขนแต่แท้จริงแมวสฟิงซ์มีขนอ่อนเล็กมากๆ ปกคลุมอยู่ และมีผิวหนังอุ่นคล้ายกับผิวหนังมนุษย์แต่มีผิวสัมผัสค่อนข้างหยาบบาง อีกทั้งมีริ้วรอยย่นตามลำตัวทำให้บางครั้งถูกเรียกแมวหนังไก่ ทั้งนี้แมวไร้ขนสฟิงซ์มีผิวหนังหลากสีทั้งแบบสีเดียวกันทั้งตัว หรือ 2-3 สีก็ได้ สำหรับแมวสฟิงซ์อายุขัยเฉลี่ยอยู่ได้ประมาณ 15-20 ปี ส่วนเรื่องน้ำหนักและส่วนสูงของสฟิงซ์เมื่อโตเต็มที่เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 10 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3-5 กิโลกรัม สูงประมาณ 20-25 เซนติเมตร โดยตัวสฟิงซ์นั้นสามารถเข้าได้ดีกับเด็กแต่ไม่ควรปล่อยแมวไว้กับเด็กตามลำพัง เพราะอย่างที่ทราบเจ้า Sphynx เป็นแมวที่มีความอินโทรเวิร์ตชอบอยู่คนเดียวระดับหนึ่ง

แมวสฟิงซ์นิสัยอย่างไร เลี้ยงยากไหม?

แมวสฟิงซ์ลักษณะนิสัย

แมวสฟิงซ์ลักษณะนิสัยที่น่าดึงดูดถึงแม้จะดูเป็นแมวที่ต้องการเวลาอยู่กับตัวเองมากเป็นพิเศษ ชอบการนอนเงียบๆ ในคอนโดแมวเป็นชีวิตจิตใจชาวทาสจึงมักจะสร้างพื้นที่ให้เจ้าแมวไร้ขนสฟิงซ์ประหนึ่งโรงแรมแมวให้พวกมัน แต่เอาเข้าจริงแมวสฟิงซ์น่ารักมีนิสัยที่ชอบการเอาอกเอาใจจากเจ้าของมากเช่นเดียวกัน ทั้งยังมีนิสัยขี้เล่น มีความกะตือรือร้นจึงทำให้มีรูปร่างที่พราดเพรียว นอกจากนี้แล้วแมว Sphynx ยังเป็นมิตรหากต้องเข้าสังคมก็ทำได้ดี แถมเป็นแมวที่ฉลาดเรียนรู้ไวอีกด้วย ทั้งนี้แมวสฟิงซ์มีข้อเสียคือพวกมันไม่ชอบอากาศที่เย็นจัด

วิธีการดูแลแมวสฟิงซ์

การดูแลประโยชน์ของแมวสฟิงซ์

การดูแลที่ดีเป็นประโยชน์ในการเพิ่มอายุขัยของแมวสฟิงซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผิวหนังด้วยการควบคุมอุณหภูมิสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ดังนี้

  • อุณหภูมิ : เนื่องจากแมวสฟิงซ์เป็นพันธุ์ไม่มีขนจึงไวต่ออุณหภูมิ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับพื้นผิวที่เย็นจัด และควรเลี้ยงไว้ในบ้าน
  • อาหาร : ควรจัดอาหารให้แมวสฟิงซ์อย่างเพียงพอเพราะน้องเป็นสายพันธุ์ที่การเผาพลาญดี โดยแมวสฟิงซ์กินอาหารประเภทโปรตีนสูงและต้องให้อาหารตามช่วงอายุ
  • การอาบน้ำ : ควรอาบน้ำให้แมวสฟิงซ์เป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อรักษาความสะอาดของผิวหนัง และควรใส่ใจเรื่องผิวหนังเป็นพิเศษ
  • ออกกำลังกาย : เป็นสัตว์ที่มีเอเนอร์จี้ไม่ชอบอยู่นิ่ง เจ้าของจึงต้องจัดหาพื้นที่เลี้ยงให้เหมาะสม

โรคที่พบบ่อยในแมวสฟิงซ์ ข้อเสียที่เจ้าของต้องรู้

แมวสฟิงซ์ ข้อเสียโรคต่างๆ

ความเสี่ยงในการเกิดโรคต่อแมวสฟิงซ์นั้นพบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังเนื่องจากลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ที่ไม่มีขน และโรคพันธุกรรมมักจะเกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรม ไปดูกันว่าโรคแมวสฟิงซ์เกิดจากอะไรบ้าง

  • โรคผิวหนัง: เนื่องจากเป็นแมวที่ไม่มีขนจึงต้องระวังผิวหนังที่บอบบาง มักมีโอกาสเกิดโรคทางผิวหนังหรือความผิดปกติของแมสเซลล์ได้ง่าย
  • โรคหัวใจ: แมวสฟิงซ์บางสายพันธุ์มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • โรคทางพันธุกรรมอื่นๆ: เช่น โรคไตผิดปกติ, โรคข้ออักเสบ, โรคเบาหวาน

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแมวสฟิงซ์

แมวสฟิงซ์มีขนหรือไม่
  • แมวสฟิงซ์ราคาแพงที่สุดไหม: ราคาแมวสฟิงซ์แท้เป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างสูง แต่ไม่ถือว่ามีราคาแพงที่สุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และความหายากด้วย โดยเช็คราคาแมวสฟิงซ์ตัวละกี่บาท ซื้อ ขายแมวสฟิงซ์ได้ที่ ENNXO ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์
  • แมวสฟิงซ์มีขนจริงไหม?: จริง แมวสฟิงซ์มีขนอ่อนๆ เส้นเล็กปกคลุมบนผิวหนัง
  • แมวสฟิงซ์แพ้ง่ายไหม?: แมวสฟิงซ์ไม่มีขนทำให้เกิดอาการแพ้ คนเป็นภูมิแพ้สามารถเลี้ยงได้
  • ซื้อ-ขายแมวไร้ขนสฟิงซ์ ราคาถูกที่ไหน?: ได้ที่ ENNXO ตลาดแมวออนไลน์ ทั้งบนมือถือ และเว็บไซต์

ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของแมวสฟิงซ์พันธุ์แมวไร้ขนยอดนิยมที่หลายคนรู้จักทั้งในชื่อแมวฟาโรห์ แมวหนังไก่ แมวไม่มีขน โดยเรื่องราวของแมว sphynx ได้ถูกถ่ายทอดไว้ในบทความทั้งหมดแล้ว ทั้งประวัติความเป็นมาของสายพันธุ์ที่ถูกต้อง ลักษณะทางกายภาพและนิสัยของเจ้าแมวสฟิงซ์ เพื่อนๆ ที่ได้อ่านกันแล้ว และรู้สึกอยากเลี้ยงสฟิงซ์พันธุ์แมวไร้ขนขึ้นมาล่ะก็เข้ามาเลือกตัวโปรดที่ถูกใจกับเอ็นโซ่ได้เลย ทั้งยังสามารลงประกาศขายแมวได้ฟรีอีกด้วย

ซื้อขายแมวไร้ขนสฟิงซ์ ราคาถูก

แชร์

Share on Line