เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog) สุนัขหน้าสั้น นิสัยขี้อ้อน เลี้ยงง่าย

สารบัญ
หากพูดถึงสุนัขสายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งรูปร่าง และบุคลิก “เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)” คงติดโผเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่ดูเหมือนบูดบึ้งตลอดเวลา หูตั้งเหมือนค้างคาว หรือรูปร่างกะทัดรัดแต่เต็มไปด้วยพลัง ความขี้เล่น และรักเจ้าของสุดๆ แต่เบื้องหลังหน้าตาสุดกวน และท่าทางทะเล้นของน้อง ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา จนกลายเป็นสุนัขยอดนิยมระดับโลก ทำไมเจ้าหมาน้อยพันธุ์นี้ถึงครองใจคนรักสัตว์มากมาย อะไรทำให้น้องแตกต่างจากสุนัขสายพันธุ์อื่น และหากคุณกำลังคิดจะเลี้ยงเฟรนช์ บูลด็อก ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน!

ประวัติเฟรนช์ บูลด็อก
ถึงแม้ว่าจะชื่อ “เฟรนช์” บูลด็อก แต่จริงๆ แล้วสุนัขพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ช่างทอผ้าในอังกฤษนิยมเลี้ยง บูลด็อกขนาดเล็ก (Toy Bulldog) เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา และช่วยกำจัดหนู แต่หลังจากเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ช่างทอผ้าหลายคนย้ายถิ่นฐานไปฝรั่งเศส ซึ่งพวกเขาได้นำสุนัขเหล่านี้ไปด้วย เมื่อมาถึงฝรั่งเศสสุนัขบูลด็อกพันธุ์เล็กได้ผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขขนาดเล็กท้องถิ่น อย่างบอสตัน เทอร์เรีย (Boston Terrier) และแรท เทอร์เรีย (Rat Terrier) จนเกิดเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ชื่อ French Bulldog (เฟรนช์ บูลด็อก) ที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่ หูตั้งตรงคล้ายค้างคาว และบุคลิกขี้เล่น ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มชนชั้นแรงงาน พ่อค้า รวมถึงศิลปินในวงการบันเทิงของฝรั่งเศส
หลังจากนั้นสุนัขพันธุ์นี้เริ่มกลายเป็นที่รู้จักไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะที่ประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกาได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขามักเรียกสุนัขพันธุ์นี้ว่าเฟรนช์ บูลด็อก (เป็นหมาที่มาจากฝรั่งเศส), เฟรนช์ชี่ (Frenchie), Clown dog (หมาตัวตลกเพราะมีนิสัยขี้เล่น) หรือ Frog dog (เวลานั่งขาหลังจะกางออกเหมือนขากบ) ต่อมาในค.ศ. 1898 ทางสมาคมสุนัขอเมริกัน American Kennel Club (AKC) ได้จดทะเบียนรับรองสายพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อกอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกได้รับความนิยม และสนใจเลี้ยงเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นสุนัขยอดนิยมของโลก แถมยังเป็นหมาหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีราคาแพงที่สุดอีกด้วย

สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ลักษณะ และนิสัย
ข้อมูลเบื้องต้น สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
ข้อมูลสำคัญ | รายละเอียด | |
อายุเฉลี่ย | 10-12 ปี | |
โตเต็มวัย | 9-12 เดือน แต่กล้ามเนื้อจะพัฒนาเต็มที่เมื่ออายุ 2 ปี | |
ส่วนสูง | ตัวผู้สูง 10-13 นิ้ว | ตัวเมีย 9-12 นิ้ว |
น้ำหนัก | ตัวผู้ 12.5 กก. | ตัวเมีย 11 กก. |
ลักษณะขน | ขนสั้น นุ่ม และเรียบ | |
จุดเด่น | ตัวเล็ก ไหล่กว้าง หูตั้งทรงค้างคาว ขี้เล่น ใจดี และรักเจ้าของ |
เฟรนช์ บูลด็อก แท้ดูยังไง
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกเป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่มีรูปร่างกะทัดรัด ล่ำสัน แข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มี ศีรษะขนาดใหญ่เป็นทรงสี่เหลี่ยม มาพร้อมใบหน้าสั้นแบนอันเป็นเอกลักษณ์ มีรอยย่นชัดเจน ดวงตากลมโต จมูกสั้น และมีรูจมูกกว้าง ใบหูมีทรงคล้ายค้างคาว (Bat Ears) คือมีฐานกว้าง ปลายมน และตั้งตรงเสมอ หากใบหูพับลงแสดงว่าไม่ใช่เฟรนช์ บูลด็อกแท้ คอสั้น หนา และแข็งแรง ส่วนลำตัวนั้นสั้น แต่มีความสมส่วน หน้าอกลึก ไหล่กว้างมีกล้ามเนื้อชัดเจน หลังตรง ขาสั้น แข็งแรง ขาหน้าตั้งตรงรับน้ำหนักหัว หน้าอก และไหล่ ขณะที่ขาหลังลาดลงเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องตัว หางมีลักษณะสั้น โค้งงอเป็นเกลียว ส่วนขนของเฟรนช์ บูลด็อกมีลักษณะที่สั้น นุ่ม เรียบ แน่น และเงางาม มีหลายสี ที่สำคัญดูแลง่ายสุดๆ

สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก มีกี่สายพันธุ์
จริงๆ แล้วสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกมีอยู่เพียงสายพันธุ์เดียวคือ เฟรนช์ บูลด็อก หรือเฟรนช์ บูลด็อก มาตรฐาน (Standard French Bulldog) ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เรารู้จัก และคุ้นเคยกันดี แต่นอกจากพันธุ์มาตรฐานแล้วสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกยังถูกแบ่งย่อยอย่างไม่เป็นทางการอีก 2 สายพันธุ์คือ Exotic French Bulldog (เฟรนช์ บูลด็อกสีหายาก) เช่น สีเทาอ่อน สีเทาอมม่วง สีดำ-แทน และสีอิซาเบลลา เป็นต้น และ Teacup French Bulldog หรือ Mini French Bulldog (เฟรนช์ บูลด็อกขนาดเล็ก) โดยจะมีส่วนสูงต่ำกว่า 11 นิ้ว และน้ำหนักน้อยกว่า 12 กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ยังไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มสมาคมสุนัขต่างๆ

สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก มีกี่สี
หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกมีกี่สี สีไหนแพง และสีไหนหายาก ซึ่งเอ็นโซ่ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสีขนของเฟรนช์ บูลด็อกมาให้แล้ว โดยสีที่พบบ่อยคือ สีขาว สีขาวแต้มดำ สีครีม สีน้ำตาลแกมเหลือง (Fawn) และสีลายเสือ (Brindle) นอกจากนี้ยังมีสี และลวดลายอื่นๆ ที่พบอีกดังนี้เลย
- สีน้ำตาล
- สีดำ
- สีดำ-แทน*
- สีเทาเข้ม (Blue)*
- สีเทาอมม่วง (Lilac)*
- สีอิซาเบลลา (Isabella Frenchie) หรือสีเงินอ่อนอมฟ้า*
- ลายจุด
- ลายแต้ม
- ลายด่าง
*สีดำ-แทน เทาเข้ม เทาอมม่วง และสีอิซาเบลลาเป็นสีหายาก เนื่องจากทางองค์กรสหพันธุ์สุนัขนานาชาติ The Fédération Cynologique Internationale (FCI) ออกกฎไม่ให้เพาะพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อกสีหายากเหล่านี้

สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก นิสัย
เฟรนช์ บูลด็อก หนึ่งในสุนัขที่มีนิสัยอ่อนโยน เป็นมิตร ขี้เล่น ขี้อ้อน มีความกระตือรือร้น และรักเจ้าของ โดยน้องชอบอยู่ใกล้เพื่อให้ได้รับความสนใจอยู่เสมอ เป็นสุนัขที่ติดคนมาก ไม่ชอบถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังนานๆ ถึงแม้จะเป็นสุนัขที่ฉลาด และเรียนรู้ไว แต่ก็มีแอบดื้อเงียบ หรือเอาแต่ใจเล็กน้อย ดังนั้นเจ้าของต้องมีความอดทนในการฝึก นอกจากนี้เฟรนช์ บูลด็อกไม่ค่อยเห่าโดยไม่จำเป็น โดยมักจะเห่าเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือมีบางอย่างผิดปกติ และสู้ไม่ถอยด้วยเหตุนี้น้องจึงเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดี ที่สำคัญน้องสามารถเข้ากับเด็ก สมาชิกในครอบครัว และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ง่าย ถือเป็นหมาครอบครัวที่น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ

วิธีเลี้ยง และดูแลสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก เลี้ยงยากไหม? ต้องดูแลอะไรบ้าง? หากกลัวว่าจะเลี้ยงน้องไม่ไหวลองมาดูวิธีการเลี้ยง และดูแลหมาเฟรนช์ บูลด็อกที่เอ็นโซ่รวบรวมมาให้ก่อน รับรองว่าทุกๆ คนก็สามารถเลี้ยงน้องเฟรนช์ชี่ได้ มาดูกัน
- การฝึก สำหรับเฟรนช์ บูลด็อก เนื่องจากเป็นหมาที่เรียนรู้ไวจึงฝึกได้ไม่ยาก แต่อาจต้องใช้ความอดทนเล็กน้อย เพราะน้องแอบดื้อบ้าง ดังนั้นควรฝึกตั้งแต่เด็ก โดยการฝึกให้ทำตามคำสั่ง นั่ง มานี่ ขอมือ หรือหมอบ เป็นต้น ซึ่งหากน้องทำตามควรมีรางวัลให้ตอบแทน รับรองถ้าฝึกจนเชื่อฟังแล้วน้องเป็นหมาที่น่ารักมากๆ
- การกรูมมิ่ง การแปรงขนไม่ต้องดูแลมาก เพราะเฟรนช์ บูลด็อกมีขนสั้น เรียบ ดังนั้นแปรงแค่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งพอ การอาบน้ำก็ไม่ต้องบ่อยแค่เดือนละครั้ง แต่หมั่นตัดเล็บ แปรงฟันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี และเลี้ยงน้องในที่ที่อากาศถ่ายเท ไม่ร้อนเกินไปเพราะเฟรนช์ บูลด็อกอาจไวต่ออากาศร้อน
- การออกกำลังกาย เฟรนช์ บูลด็อกไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก แค่ให้ทำกิจกรรม หรือพาไปเดินเล่นวันละ 15 นาทีก็เพียงพอแล้ว เพราะน้องเป็นหมาหน้าสั้นเลยมีปัญหาเลือกการหายใจหากให้ออกกำลังหนักเกินอาจหายใจไม่ทัน เหนื่อยหอบ และเสี่ยงขาดอากาศได้
- อาหาร สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกควรได้รับอาหารที่มีคุณค่าครบหลักโภชนาการ โดยปริมาณอาหารต้องมีความเหมาะสมกับขนาดตัว และอายุเพื่อป้องกันน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน แนะนำให้ปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อความเหมาะสม

โรคที่พบบ่อยในสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
ถึงแม้ว่าหมาเฟรนช์ บูลด็อกจะดูเป็นหมาพันธุ์แกร่งสุดแข็งแรง แต่น้องก็เจ็บป่วยได้เหมือนกัน เพราะหมาทุกสายพันธุ์ย่อมมีโรคประจำพันธุ์ที่ต้องระวังอยู่ ซึ่งหากเรารู้ก่อนว่ามีโรคอะไรบ้าง อาการเป็นอย่างไร น่าจะช่วยให้รู้ทัน หรือสังเกตอาการผิดปกติของน้องได้ดีขึ้น ซึ่งโรคที่พบบ่อยในเฟรนช์ บูลด็อกมีอะไรบ้างมาดูกัน
- โรคหมอนรองกระดูก (Intervertebral disc disease) เกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนไปทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวด เคลื่อนไหวได้ไม่เป็นปกติ และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นอัมพาตได้
- โรคเชอร์รี่อาย (Cherry Eye) เกิดจากความผิดปกติของเยื่อเปลือกตาที่สามที่มีอยู่ในดวงตาของสุนัข และแมว ทำให้เกิดก้อนกลมๆ ขึ้นในดวงตา ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้
- โรคทางเดินหายใจผิดปกติในสุนัขและแมวพันธุ์หน้าสั้น (Brachycephalic Obstructive Airway Syndrome (BOAS)) เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย ทำให้หายใจยากลำบากกว่าปกติ และเสี่ยงที่จะขาดออกซิเจนได้ง่ายถึงขั้นเสียชีวิตได้
- โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) เกิดจากผิวที่บอบบาง และภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าหมาพันธุ์อื่นๆ ทำให้โดนกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้ได้ง่าย เกิดอาการคัน ผิวหนังลอก และอาจติดเชื้อ หรือโรคแทรกซ้อนได้

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
ลองมาดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเฟรนช์ บูลด็อกบ้างเผื่อจะช่วยตอบข้อสงสัยของใครหลายๆ คน ว่าแต่มีคำถามอะไรบ้างที่ ENNXO เอามาฝาก พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย
- สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก โตเต็มวัยกี่เดือน?
เฟรนช์ บูลด็อก โตเต็มที่ประมาณ 9-12 เดือน
- สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกเห่าบ่อยไหม?
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกเห่าไม่บ่อย โดยมักเห่าเวลาที่มีสิ่งผิดปกติ หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย
- สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกเข้ากับเด็กได้ไหม?
เฟรนช์ บูลด็อกสามารถเข้ากับเด็ก รวมถึงสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้ดี ยิ่งถ้าได้รับการฝึกยิ่งมีความเฟรนลี่สุดๆ
- สุนัขเฟรนช์ บูลด็อกอยู่คนเดียวได้ไหม?
จริงๆ แล้วเฟรนช์ บูลด็อกสามารถอยู่คนเดียวได้ แต่เจ้าของควรหาเวลามาอยู่คลุกคลีกับน้องบ่อยๆ เพราะหมาเฟรนช์ บูลด็อกชอบอยู่กับคน
- สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก สีไหนแพงสุด?
สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก สีที่แพงที่สุดคือ สีอิซาเบลลา (Isabella Frenchie) หรือสีเงินอ่อนอมฟ้า เพราะเป็นสีที่หายาก
- สุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ห้ามกินอะไร?
เฟรนช์ บูลด็อก ห้ามกินช็อกโกแลต เพราะทำให้กล้ามเนื้อแข็งเกร่ง หัวใจเต้นแรง ลูกเกดและองุ่น ทำให้ไตวายได้ ไส้กรอกกับเบคอน ทำให้เป็นโรคไตได้ ไข่และปลาดิบ ทำให้ท้องเสีย และมีผลต่อระบบการย่อย และกระดูกสัตว์ ทำให้เกิดการอุดตันระบบทางเดินอาหารได้

เลี้ยงสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ดีไหม?
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วสุนัขเฟรนช์ บูลด็อกน่าเลี้ยงไหม? จะเลี้ยงดีรึเปล่า? ถ้ายังลังเลไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี ลองมาดูข้อดี-ข้อเสียของเฟรนช์ บูลด็อกที่ ENNXO รวบรวมมาให้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะเลี้ยงดีไหม
ข้อดีของสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
- อ่อนโยน เป็นมิตร
- ขี้เล่น ขี้อ้อน
- ฉลาดเรียนรู้ไว
- รักเจ้าของ
- เฝ้าบ้านได้ดี
ข้อเสียของสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก
- ดื้อเงียบ
- ไม่ชอบอยู่คนเดียว
- ต้องอยู่ในที่ที่อากาศไม่ร้อน
- มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจ

จบแล้วกับเรื่องราวของหมาเฟรนช์ บูลด็อก เป็นไงกันบ้าง? รู้จักน้องหมาพันธุ์นี้มากขึ้นไหม เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักน้องมากขึ้น และคงมีหลายคนที่เริ่มอยากหาน้องมาเลี้ยงบ้างแล้ว ซึ่งหากคุณกำลังตามหาแหล่งซื้อขายสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ราคาพิเศษ มีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งลูกหมาเฟรนช์ บูลด็อก เฟรนช์ บูลด็อก ตัวผู้ ตัวเมีย หรือสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก สีต่างๆ แถมมีเปรียบเทียบเรทราคาได้ด้วย ต้องที่ ENNXO ตลาดซื้อขายเฟรนช์ บูลด็อกออนไลน์เลย ที่เดียวครบจบเรื่องหมาเฟรนช์ บูลด็อก ไม่ว่าจะเลือกซื้อก็สะดวก มีหลากหลายแบบ หรือจะลงขาย เปิดร้าน เปิดฟาร์มเฟรนช์ บูลด็อกก็ทำได้ง่าย แถมฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม รู้แบบนี้แล้วอย่ารอช้ามาค้นหาหมาเฟรนช์ บูลด็อกตัวที่ใช่ในราคาที่ชอบกับเอ็นโซ่เลย
