สารบัญ
ไม่ว่าวันนี้เป็นวันที่ดีหรือวันที่ไม่ดี เชื่อว่าหลายๆ คนก็อยากจดเรื่องราวที่พบเจอในแต่ละวันลงในไดอารี่ของตนเอง เพื่อที่สักวันเมื่อย้อนกลับมาอ่านจะทำให้รู้สึกว่าเราผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาแล้ว นอกจากจดไดอารี่ผ่านสมุด ยังสามารถจด Diary บนมือถือผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งเอ็นโซ่มาแนะนำแอพจดไดอารี่ ประจำวัน ที่ดาวน์โหลดฟรีใน iOS และ Android จะโหลดลงในมือถือหรือไอแพดก็ดีทั้งนั้น โดยแอปจะมีลูกเล่นแตกต่างกันไป รวมถึงความน่ารักในการตกแต่งไดอารี่ แถมยังช่วยฮีลใจได้ดีอีกด้วย
รวมแอปจดไดอารี่ ใช้งานฟรี มีลูกเล่นน่ารัก
แอปจดไดอารี่แต่ละแอปนั้น มีฟังก์ชัน ลูกเล่นแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าคุณจะเป็นสายน่ารัก สายมินิมอล ลองดูแอปที่ทางเอ็นโซ่แนะนำนี้ได้เลย นอกจากจะใช้ฟรีแล้ว ตัวแอปยังคุ้มค่าในการใช้งานอีกด้วย ทำให้อยากจดเรื่องราวในชีวิตประจำวันทุกวัน แถมยังสร้างสรรค์ไดอารี่ออกมาได้อย่างเต็มที่ มาดูว่ามี Diary App ไหนกันบ้าง
Gratitude Jar
Gratitude Jar แอปพับดาว ที่ชวนบันทึกความรู้สึกลงในโหลแก้ว ซึ่งแอปนี้เราสามารถบันทึกเรื่องที่พบเจอแล้วพิมพ์ลงไปในช่วงเวลาต่างๆ ได้ โดยแอปบันทึกเวลาพร้อมกับบันทึกเรื่องราวที่เราได้พิมพ์มา ความน่ารักของแอปนี้คือในแต่ละวันจะมีดาวให้หนึ่งดวง ดาวทุกดวงดุ๊กดิ๊กได้ น่ารักสุดๆ แถมยังมีหน้า Shake เมื่อกดแล้วระบบจะสุ่มหนึ่งเรื่องราวที่เคยบันทึกขึ้นมาโชว์ มาสะสมดาวและบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำวันได้เลยที่แอปนี้ ดาวน์โหลดได้ที่ iOS
ข้อดี: มีให้เลือกโหมดทั้งแบบ Light และ Dark, ตั้งเวลาแจ้งเตือนให้เราเข้ามาบันทึกได้, บันทึกเรื่องราวเป็นช่วงเวลา
ข้อเสีย: ดาวที่ได้ในแต่ละวันเป็นแบบสุ่มมาให้ เลือกอารมณ์ของดาวไม่ได้, ไม่สามารถเก็บดาวแบบย้อนหลังได้หากลืมเข้ามาบันทึก, ตกแต่งไดอารี่ได้ไม่ค่อยเยอะ เน้นใส่อิโมจิเท่านั้น, บันทึกเรื่องราวย้อนวันไม่ได้
Mininote
Mininote แอปไดอารี่ที่ต้องร้องตะโกนเลยว่าน่ารักมาก! ตัวแอปสามารถทำได้หลายอย่าง ทั้งจดบันทึกแบบพิมพ์ เขียนด้วยลายมือเอง แปะด้วยรูปภาพ และมีโหมดอื่นๆ อย่างแต่งตัวตุ๊กตา, Photo Booth, Diy scenery, NoteChat เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้แอปมีเทมเพลตมาให้เลือกเยอะมาก ในกรณีที่เราไม่อยากครีเอทไดอารี่เอง แถมยังมีสติ๊กเกอร์ Gif ตัวบรัชให้เลือกตกแต่งเต็มไปหมด
เมื่อจดไดอารี่เสร็จแล้ว แอปนี้มีสมุดไดอารี่ให้โดยเฉพาะ สามารถปรับแต้งหน้าสมุดได้ตามใจชอบ แล้วเมื่อเปิดดูเรื่องที่เราเคยบันทึก ตัวแอปจะขึ้นโชว์ทั้งสามแบบคือ แนวนอน, แนวตั้ง และแบบเปิดอ่านหนังสือในฉบับเคลื่อนไหว บอกเลยว่าเป็นแอปที่เจ๋งมากๆ ใช้งานฟรีก็ว่าคุ้มแล้ว แต่ถ้าใครอยากใช้แบบจัดเต็มก็มี Vip ให้เติมเงินอีกด้วยหรือถ้าไม่เติมเงินก็มีให้ดูโฆษณาแทน สนใจแอปนี้ดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android
ข้อดี: บันทึกย้อนหลังได้, มีลูกเล่นเยอะ ของตกแต่งเพียบ, หน้าปกไดอารี่เปลี่ยนภาพได้, มีอิโมจิน่ารักๆ ไว้แสดงอารมณ์ความรู้สึกในแต่ละวัน, มีโหมดคุยกับเพื่อน, เปลี่ยนสีพื้นหลังหน้าจอได้, เป็นแอปที่น่ารักมากๆ
ข้อเสีย: เวลาอยากได้สติ๊กเกอร์หรือของตกแต่งเพิ่ม ต้องไปหาใน Store เพิ่มเติม แล้วเลือกเซฟบันทึกอันที่ต้องการ แล้วกลับมาที่หน้าสติ๊กเกอร์ใหม่อีกครั้งเพื่อใช้ ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาพอสมควร
Mooda
Mooda แอปบันทึกความรู้สึกในแต่ละวันผ่านอิโมจิกลมๆ สุดน่ารัก มีทั้งหมด 9 อารมณ์ โดยเราสามารถเลือกอารมณ์อิโมจิที่ตรงกับความรู้สึกของเราในวันนั้น แล้วเขียนบันทึกได้เลย ซึ่งพิมพ์เป็นตัวอักษรได้ ใช้สติ๊กเกอร์ แปะภาพตกแต่งได้ เปลี่ยนแถบสีได้ บอกเลยว่าน่ารักสุดๆ เวลาบันทึกเรื่องราวเสร็จแล้วตัวแอพจะขึ้นคำปลอบโยนหรือคำให้กำลังใจดีๆ ด้วยนะ ฮีลใจได้ดีสุดๆ
นอกจากนี้ยังเปลี่ยนภาพปกสมุดไดอารี่ของตัวเองได้ด้วยและมีห้องให้ตกแต่งเพลินๆ เป็นอีกหนึ่งแอปที่น่ารักมาก ใช้งานง่ายสุดๆ ดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android
ข้อดี: เปลี่ยนสีพื้นหลังแอพและตรงจดบันทึกได้, แอดเพื่อนได้, บันทึกย้อนวันได้, เปลี่ยนฟอนต์ ขนาดได้, รองรับภาษาไทย
ข้อเสีย: สติ๊กเกอร์น้อย
Daily Bean
Daily Bean แอปจดบันทึกความรู้สึก เป็นอีกหนึ่งแอปที่ได้รับความนิยมสูง โดยเราเลือกอิโมจิที่แสดงความรู้สึกในแต่ละวัน มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ต่อด้วยเลือกอารมณ์, อยู่กับใคร, สภาพอากาศ, เขียนโน้ต, แปะรูปภาพ, ช่วงเวลานอน ความเจ๋งของแอปนี้คือจะมีรายงานผลสรุปออกมาว่าในหนึ่งเดือน เรามีอารมณ์แบบไหนเยอะสุด ชอบทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษ และอะไรที่ทำให้เราอารมณ์ดี อารมณ์ไม่ดี ถือว่าเป็นแอปที่ดีมากๆ ใช้งานง่าย ส่วนอิโมจิหากต้องการรูปแบบอื่นๆ รวมถึงผลสรุปเรื่องอื่นๆ ต้องเติมเงินเพิ่มนะ ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Andriod
ข้อดี: บันทึกย้อนวันได้, มีผลสรุปของแต่ละเดือน
ข้อเสีย: ตกแต่งได้ไม่เยอะ เน้นใช้อิโมจิจากมือถือ
Emmo
บันทึกความรู้สึกประจำวันผ่านแอป Emmo ซึ่งตัวแอปคล้ายกับแอป Mooda คือมีอิโมจิตัวกลมๆ ให้เลือกแทนความรู้สึก มีทั้งหมด 10 แบบ เมื่อเลือกเสร็จแล้วก็จะมีให้จดบันทึกเรื่องราวในวันนั้นๆ สามารถเปลี่ยนสีตัวอักษรได้ ระบุเวลาที่เขียนได้ แสดงสัญลักษณ์สภาพอากาศได้ หรือถ้าอยากเปลี่ยนเป็นแปะภาพ แปะเสียง วิดีโอ ก็ทำได้เช่นเดียวกัน ดาวน์โหลดได้ที่ Android และ iOS
ข้อดี: บันทึกย้อนวันได้, มีผลสรุปของแต่ละเดือน, เปลี่ยนสีฟอนต์ได้ และแปะวิดีโอ ภาพ เสียงตอนเขียนไดอารี่ได้
ข้อเสีย: สติ๊กเกอร์น้อย ต้องเติมเงิน, โฆษณาขึ้นบ่อย
Smile Todo
Smile Todo เป็นแอปที่เอ็นโซ่ขอแนะนำมากๆ นอกจากจดบันทึกความรู้สึกในแต่ละวันแล้ว ยังจดลิสต์ที่จะทำในวันนั้นๆ ได้อีกด้วย หากลิสต์ไหนที่ทำแล้วก็ติ๊กถูกได้เลย โดยจะขึ้นสีตามที่เราเลือกมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีตารางแสดงผลความรู้สึกในหนึ่งเดือนและผลสรุปลิสต์ที่เราทำเป็นประจำอีกด้วย ใครเป็นคนขี้ลืมว่าหนึ่งวันต้องทำอะไรบ้าง ต้องใช้แอปนี้เลย พร้อมกับจดไดอารี่ไปด้วย ดาวน์โหลดได้ที่ iOS
ข้อดี: บันทึกย้อนวันได้, มีผลสรุปของแต่ละสัปดาห์
ข้อเสีย: มีฟีเจอร์ ลูกเล่นหลายอย่างที่ต้องเติมเงิน
My Diary
แอป My Diary ที่ชวนให้จดบันทึกเรื่องราว ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งรูปแบบของแอปให้ฟิลเหมือนกำลังเขียนลงสมุด สามารถเปลี่ยนสีตัวอักษรได้ แปะภาพได้ ใส่สติ๊กเกอร์ได้ นอกจากเขียนไดอารี่แล้ว ยังมีผลสรุปอารมณ์ในหนึ่งเดือนอีกด้วย เป็นแอปที่ใช้งานง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ทำเป็นวิดเจ็ตได้ด้วยนะ ดาวน์โหลดฟรีได้ที่ iOS และ Android
ข้อดี: บันทึกย้อนวันได้, ทำเป็นวิดเจ็ตได้
ข้อเสีย: มีฟีเจอร์ ลูกเล่นหลายอย่างที่ต้องเติมเงิน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับแอพเขียนไดอารี่ที่ทางเอ็นโซ่แนะนำมานี้ ใครเป็นคนชอบจดไดอารี่ ห้ามพลาดเลยนะ แต่ละแอปก็มีฟังก์ชันที่น่าใช้งานไม่เหมือนกัน มาสำรวจความรู้สึกของตัวเองผ่านการจดบันทึกในแอปได้เลย ก่อนจะจบบทความนี้หากเพื่อนๆ เป็นพ่อค้าแม่ค้า หรืออยากลงขายของ เราขอฝากแอปพลิเคชัน ENNXO ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ไว้ด้วยนะ