ทำไม Toyota Fortuner ถึงได้รับความนิยมตลอดกาล?
Toyota (โตโยต้า) เป็นแบรนด์รถยนต์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งทนทานเป็นที่สุด และมีรถในตำนานอยู่หลากหลายรุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์ PPV ที่คนใช้ทั่วบ้านทั่วเมือง ขายดิบขายดีจนผลิตไม่ทัน หากคุณอยากจะได้โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์มาครอบครองล่ะก็ บอกเลยว่าต้องสั่งจองและรอนานหลายเดือนเลยทีเดียว!
จุดเด่นของ Toyota Fortuner
- เครื่องยนต์แรง ใช้งานหนักได้สบาย ๆ พื้นที่กว้างขวาง และสามารถบรรทุกของได้เยอะ!
- ถึงจะเป็นรถฟอร์จูนเนอร์มือสอง แต่ความแรงของเครื่องยนต์และความแข็งแกร่งของรถก็ยังคงเต็มพิกัด
- ฟอร์จูนเนอร์เป็นรถที่ขับได้บนทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะทางเรียบ ทางขรุขระ หรือทางทุรกันดารตามชนบท
- ฟอร์จูนเนอร์พร้อมลุยไปกับคุณในทุกสถานการณ์ และตอบโจทย์ทุกการใช้งานทุกจุดประสงค์
- ช่วงล่างของรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สามารถยึดเกาะถนนได้ดี ทำให้คุณได้รับแรงกระแทกน้อย
- หาอะไหล่ในการซ่อมบำรุงง่าย เพราะฟอร์จูนเนอร์มือสองเป็นรถที่คนไทยนิยมมาก
- Toyota มีโรงงานผลิตรถรถยนต์ในประเทศไทย และมีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย
ด้วยเหตุนี้ ฟอร์จูนเนอร์มือสอง จึงเป็นหนึ่งในประเภทรถที่มีอัตราการซื้อขายสูงมาก ในตลาดรถมือสองออนไลน์อย่าง ENNXO.com (แพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ระดับแนวหน้าของไทย มีรถโตโยต้ามือสองทุกสภาพ มีรถมือสองทุกรุ่นทุกยี่ห้อ) สำหรับราคารถฟอร์จูนเนอร์มือสองจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิต รุ่น และสภาพของรถฟอร์จูนเนอร์มือสองแต่ละคัน
ถึงแม้ว่า Toyota Fortuner จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ความนิยมก็ยังดีไม่มีตกเลย เรียกได้ว่าขายดีติด Top 3 มาโดยตลอด และในปี 2023 นี้ ก็มีรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ออกมาให้เลือกซื้อกันถึง 3 รุ่นเลยทีเดียว! สำหรับวันนี้ เราก็จะมาดูกันว่ารถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ที่ออกใหม่ในปี 2023 มีรุ่นอะไรบ้าง แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติอย่างไร และถ้าคุณกำลังมองหาฟอร์จูนเนอร์มือสองอยู่ล่ะก็ ควรเลือกซื้อฟอร์จูนเนอร์มือสองรุ่นไหนดี? จึงจะคุ้มที่สุด!
Toyota Fortuner มีกี่รุ่น? ซื้อรถฟอร์จูนเนอร์มือสองรุ่นไหนดี?
ซื้อรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์มือสองรุ่นไหนดี? ควรซื้อรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่? แน่นอนว่ารถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์รุ่นใหม่ ๆ ย่อมดีกว่ารุ่นเก่าอยู่แล้ว เพราะเทคโนโยลีและระบบต่าง ๆ ของรุ่นใหม่ถูกพัฒนาออกมาให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่นเก่า แต่ใช่ว่ารถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์รุ่นเก่าจะไม่ดีเสมอไป ไม่แน่รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์มือสองรุ่นเก่า ๆ อาจจะตอบโจทย์คุณมากกว่ารุ่นใหม่ก็เป็นได้ นอกจากนี้ ในส่วนของการตัดสินใจเลือกซื้อฟอร์จูนเนอร์มือสองว่าควรซื้อรุ่นไหนดี ยังเป็นเรื่องของงบประมาณที่คุณมีอีกด้วย
Toyota Fortuner 2023 ถูกปรับปรุงและพัฒนาระบบให้เอื้อประโยชน์กับการใช้งานของผู้ขับขี่มากขึ้น อาทิ การปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าของตัวรถให้ดูพรีเมียมมากขึ้น การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนแบบไร้สายได้อย่างง่ายดาย และระบบรักษาความปลอดภัยเชิงป้องกันที่สามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ทุกทิศทาง! นอกจากนี้ Toyota Fortuner 2023 บางรุ่น ยังมีการอัปเกรดเครื่องยนต์เป็น 224 แรงม้าอีกด้วย
Toyota Fortuner 2023 มีทั้งหมด 3 รุ่น
ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Toyota Fortuner 2023
- สัญญาณเตือนกะระยะ 6 จุด
- ระบบช่วยเตือนขณะถอย ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา
- ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง (ยกเว้นรุ่น Leader)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน
- ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย
- ระบบเตือนรถออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- กล้องมองภาพ 360 องศา (ยกเว้นรุ่น Leader 2.4 G)
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ)
1. Toyota Fortuner Leader
Toyota Fortuner Leader 2023 คือ ที่สุดของความเป็น “ผู้นำ” โดยแท้จริง มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ (ล้ออัลลอย 18 นิ้ว) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2GD-FTV (High)/4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที มีระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มาพร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift
- Toyota Fortuner 2.4 Leader V 4WD (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- Toyota Fortuner 2.4 Leader V (ขับเคลื่อน 2 ล้อ)
- Toyota Fortuner 2.4 Leader G (ขับเคลื่อน 2 ล้อ)
ภายในห้องโดยสารของ Toyota Fortuner Leader 2023 ถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำและสีเงิน ซึ่งจะเน้นไปที่สีดำอันให้ความรู้สึกสุขุมและแข็งแกร่ง, เบาะคู่หน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง, เบาะนั่งทำจากหนังและหนังสังเคราะห์, แอร์อัตโนมัติแยกการปรับซ้าย-ขวาได้ตามต้องการ พร้อมกรองฝุ่น PM2.5 ได้ในตัว, มีระบบเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว (รองรับ Bluetooth, Apple CarPlay, Android Auto, T-Connect และ USB), มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และ สามารถนั่งได้ 7 ที่นั่ง
Toyota Fortuner Leader 2023 มีให้เลือก 6 สี
2. Toyota Fortuner Legender
Toyota Fortuner Legender 2023 รถอเนกประสงค์ยอดนิยม มีระบบ ฟังก์ชัน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ดีไซน์โฉบเฉี่ยวดู Smart โดนใจ! มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ (ล้ออัลลอย 20 นิ้ว) เครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV(High) และ 2GD-FTV (High) /4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มาพร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift มีกล้องมองรอบคัน พร้อมมุมมองแบบ 3D View
- Toyota Fortuner 2.8 Legender 4WD (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- Toyota Fortuner 2.8 Legender (ขับเคลื่อน 2 ล้อ)
- Toyota Fortuner 2.4 Legender 4WD (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
ห้องโดยสารภายในของ Toyota Fortuner Legender 2023 มากับความเรียบหรู ซึ่งตัวเบาะนั่งจะมีอยู่ 2 แบบคือ 1. สีดำสลับขาว ในรุ่น Toyota Fortuner 2.8 Legender 4WD (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) และ 2. สีดำสลับแดง ในรุ่นอื่น โดยเบาะคู่ด้านหน้าเป็นแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีลำโพงทั่วถึงทั้งคัน และมีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (รองรับ Bluetooth, Apple CarPlay, Android Auto, T-Connect และ USB)
Toyota Fortuner Legender 2023 มีให้เลือก 3 สี
3. Toyota Fortuner GR Sport
Toyota Fortuner GR Sport 2023 (2.8 GR Sport 4WD) เครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV(High)/4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (ล้ออัลลอย 20 นิ้ว) มีระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มาพร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift
ภายในห้องโดยสารของ Toyota Fortuner 2.8 GR Sport 4WD จะตกแต่งด้วยโทนสีดำคมเข้ม ตัวเบาะมีสีดำสลับกับสีแดง หุ้มด้วยหนังกลับ Suede แบบเจาะรูผสมหนังสังเคราะห์ พร้อมสัญลักษณ์ GR (เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง) เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (รองรับ Bluetooth, Apple CarPlay, Android Auto, T-Connect และ USB)
Toyota Fortuner GR Sport 2023 มีให้เลือก 3 สี