รู้จัก แมวสฟิงซ์ (Sphynx) ทำไมคนถึงนิยมเลี้ยง?
เมื่อนึกถึงแมวไร้ขนแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องนึกถึงเจ้า “แมวสฟิงซ์” ซึ่งก็มีหลายคนที่นิยมเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ รวมถึงหลายคนที่สงสัยว่าเลี้ยงยากไหม? เพราะน้องดูมีลักษณะแตกต่างจากแมวทั่วๆ ไป อย่างไรก็ตามเรามักเห็นได้บ่อยตามคาเฟ่แมวต่างๆ แสดงว่าแมวสฟิงซ์ก็เป็นแมวที่ดูขี้เล่น ดูเลี้ยงไม่ยาก เราจะพาคุณมารู้จักน้องเพิ่มมากขึ้นกัน
สฟิงซ์ ชื่อสายพันธุ์แมวที่ชวนให้นึกถึงประเทศอียิปต์ แต่ความจริงแล้วน้องมีต้นกำเนิดอยู่ที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ส่วนที่ถูกตั้งชื่อว่าสฟิงซ์นั้นเพราะว่าลักษณะของแมวสฟิงซ์คล้ายกับสัตว์เลี้ยงของฟาโรห์ หากดูรูปลักษณ์แมวสฟิงซ์แล้ว อาจคิดว่าน้องเป็นแมวสายพันธุ์ดุ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมากๆ เพราะน้องเป็นแมวขี้เล่นสุดๆ และยังเป็นมิตรกับทุกคนอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยถึงนิยมเลี้ยง นอกจากจะนิสัยน่ารักแล้วยังมีลักษณะที่ชวนน่าเอ็นดูสุดๆ แถมยังมีเรื่องเล่าที่ว่าลักษณะของแมวสฟิงซ์เป็นแมวชนชั้นสูงของคนในสมัยอียิปต์อีกด้วยนะ
ลักษณะแมวสฟิงซ์ และนิสัยน้องแมวเป็นอย่างไร
ลักษณะของแมวสฟิงซ์ เป็นแมวที่มีรูปร่างผอมเพรียว มีขนน้อยหรือบางตัวแทบไม่มีเลย มีบางจุดที่เป็นรอยย่น ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ ส่วนลักษณะของหน้าน้องสฟิงซ์จะเป็นทรงสามเหลี่ยม ใบหูกาง ลำตัวยาว สีของแมวสฟิงซ์จะมีสีแตกต่างกันไปตามเม็ดสีผิว มีทั้งสีดำ สีขาว และสีน้ำตาล เป็นต้น อายุขัยของแมวสฟิงซ์อยู่ที่อายุประมาณ 15-20 ปี
นิสัยของแมวสฟิงซ์ ดื้อไหม? ดุไหม? เห็นหน้าน้องนิ่งๆ คงมีหลายคนคิดว่าเป็นแมวดุ แต่อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าน้องเป็นแมวขี้เล่น นอกจากจะขี้เล่นแล้วน้องยังมีความอยากรู้อยากเห็น ชอบอ้อนเจ้าของเพราะน้องจะชอบมานอนใกล้ๆ เพื่อขอความอบอุ่น ใครอยากได้แมวอ้อนๆ ต้องเลี้ยงสฟิงซ์เลย
นอกจากนี้หลายๆ คนเมื่อเห็นแมวไร้ขนจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสฟิงซ์หมด แต่ยังมีสายพันธุ์แมวอื่นๆ อีกด้วยนะ ที่ไม่มีขน เช่น แมวดอนสกอย (Donskoy) ต้นกำเนิดจากรัสเซีย , แมวปีเตอร์บัลด์ (Peterbald) ลูกผสมระหว่างดอนสกอยและโอเรียลทัลขนสั้น ส่วนถ้าสายพันธุ์แมวที่เกิดจากสฟิงซ์ ก็มีด้วยเช่นกัน เช่น แมวแบมบิโน่ (Bambino) ลูกผสมระหว่างสฟิงซ์กับมันช์กิ้น และแมวเอลฟ์ (Elf) ลูกผสมสฟิงซ์กับอเมริกันเคิร์ล เป็นต้น
ก่อนตัดสินใจซื้อ แมวสฟิงซ์ ต้องรู้อะไรบ้าง!
ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงน้องสฟิงซ์ คนที่จะเลี้ยงนั้นต้องคำนึงถึงเรื่องเงินเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะการที่จะมีสัตว์เลี้ยงสักตัวต้องมีเงินซัพพอร์ตน้อง เพื่อให้น้องมีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ และเรื่องเวลา แน่นอนว่าการเลี้ยงแมวสักตัวต้องมีเวลาให้กับน้อง ทั้งการพาไปหาหมอ เพื่อฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ พาน้องทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ให้เบื่อ และให้อาหารอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น แต่การเลี้ยงสฟิงซ์นอกจากรู้จักนิสัยของน้องแล้ว ยังมีสิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติม เพื่อตอบคำถามที่ว่า สฟิงซ์เลี้ยงไหม? ดังนี้
- เรื่องสุขภาพของแมวสฟิงซ์ ด้วยความที่แมวสฟิงซ์ขนน้อย จึงต้องดูแลเรื่องผิวหนังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการติดเชื้อทางผิวหนัง และจากแสงแดด รวมถึงต้องคอยเช็คอุณหภูมิให้ดี เตรียมพื้นที่ให้น้องอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องดูแลเรื่องการอาบน้ำ สัปดาห์ละครั้ง ต้องหมั่นทำความสะอาดหู ตัดเล็บให้น้องด้วยนะ
- เรื่องอาหาร แมวสฟิงซ์ต้องการสารอาหารที่มากกว่าแมวทั่วไป โดยให้อาหารเม็ดตามช่วงวัยได้ เมื่อน้องเริ่มอายุ 10 เดือนขึ้นไป ก็เริ่มให้อาหารที่บำรุงผิวหนังไปด้วย อย่างไรก็ตามควรให้ปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน
- เรื่องของเล่น แมวสฟิงซ์เป็นแมวขี้เล่นจึงชอบการเล่นเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากสุขภาพกายจะดีแล้ว การเล่นของเล่น หากิจกรรมให้น้องเล่น ยังเพิ่มสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย อย่าลืมหาของเล่นให้น้องได้ปีนป่าย ลับเล็บด้วยนะ
ทำไมต้อง ซื้อขาย แมวสฟิงซ์ ที่ ENNXO
แมวสฟิงซ์แท้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 40,000 บาท แต่บางตัวนั้นก็มีราคาสูงไปจนถึงหลักแสน ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของแมวสฟิงซ์ในแต่ละตัว ไม่ว่าคุณจะหาแมวสฟิงซ์สีดำ สีขาว แมวสฟิงซ์หูสั้น หูยาว แมวสฟิงซ์ ราคาไม่เกิน 25,000 บาท ก็สามารถเข้ามาเลือกดูแมวสฟิงซ์จากทั่วประเทศไทยได้ที่ ENNXO ตลาดซื้อขายแมวออนไลน์
นอกจากมีน้องแมวสฟิงซ์ให้เลือกเป็นจำนวนมากแล้ว ยังลงขายแมวได้อีกด้วย โดยตั้งราคาเอง ดีลเอง ขายได้เองโดยตรง ไม่มีเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ใครเป็นเจ้าของฟาร์มแมวสฟิงซ์ หรือมีแมวสฟิงซ์ต้องการส่งต่อให้เจ้าของคนใหม่ดูแล ก็ลงประกาศแมวสฟิงซ์ได้ที่เอ็นโซ่เลย นอกจากจะฟรีทุกขั้นตอนแล้ว ยังเพิ่มโอกาสในการขายออกให้เร็วขึ้นอีกด้วย เพราะเอ็นโซ่เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่มีคนเข้ามาชมสินค้าต่อวันเป็นจำนวนมาก แนะนำว่าไม่ควรพลาดพื้นที่ออนไลน์ดีๆ ของคนรักสัตว์เลี้ยงแห่งนี้
