รู้จักนิสัยนกเลิฟเบิร์ด สีไหนแพงสุด และสายพันธุ์ไหนนิยมเลี้ยง

รู้จักนิสัยนกเลิฟเบิร์ด สีไหนแพงสุด และสายพันธุ์ไหนนิยมเลี้ยง
  • ENNXO
  • Blog
  • รู้จักนิสัยนกเลิฟเบิร์ด สีไหนแพงสุด และสายพันธุ์ไหนนิยมเลี้ยง
โดย ENNXO
อัพเดทล่าสุด: 28 มี.ค. 2568

แชร์ไปยัง :

Share on Line

นกแก้วจ้าวแห่งสีสัน มีขนาดเล็ก และขึ้นชื่อว่าเป็นนกแห่งความรัก จะเป็นสายพันธุ์ไหนไปไม่ได้เลย ก็ต้องเป็น “นกเลิฟเบิร์ด” เห็นเพียงแค่ชื่อก็รู้ได้เลยว่าเจ้านกพันธุ์นี้ต้องมีอะไรเชื่อมโยงกับความรักแน่ๆ ใครกำลังหานกแก้วพันธุ์เล็กตัวนี้มาเลี้ยง มาเช็คข้อมูลเกี่ยวกับนกเลิฟเบิร์ดได้ที่นี่ ระวังตกหลุมรักกับความสวยงามของสีสันนก และความรักของนกที่เห็นแล้วต้องอิจฉา

รู้จักนกเลิฟเบิร์ด นกแก้วตัวเล็ก

ประวัตินกเลิฟเบิร์ด มาจากไหน?

นกเลิฟเบิร์ด (Lovebird) มีถิ่นกำเนิดแถบทวีปแอฟริกา ในบริเวณแอฟริกาตะวันออก ทางตอนใต้ และเกาะมาดากัสการ์ โดยนกเลิฟเบิร์ดเป็นนกแก้วขนาดเล็ก อยู่ในสกุล Agapornis สำหรับคำว่า “Agapornis” มาจากคำในภาษากรีก คำว่า αγάπη หมายถึง "รัก" และคำว่า όρνις หมายถึง "นก"

ในช่วงศตวรรษที่ 18-19 มีนักธรรมชาติวิทยาได้ค้นพบนกสายพันธุ์เลิฟเบิร์ด หลังจากนั้นได้มีการนำเข้าสู่ประเทศทางยุโรปและอเมริกา จนได้รับความนิยมสูงสุด เพราะตัวนกมีสีสันสวยงาม มีนิสัยที่น่ารัก จึงมีการเพาะพันธุ์นกแก้วเลิฟเบิร์ดออกมาอีกหลากหลายสายพันธุ์

นกเลิฟเบิร์ดเข้ามาที่ไทยโดยการนำเข้าจากต่างประเทศ ในช่วงประมาณปี 1977-1987 ต่อมาในช่วงปี 1997 เป็นต้นมาเริ่มมีการเพาะพันธุ์นกเลิฟเบิร์ดในไทย จนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนไทย รวมถึงเกิดสีนกเลิฟเบิร์ดใหม่ๆ ฟาร์มเลี้ยงและการประกวดแข่งขันมากมาย

ชื่อ Lovebird (เลิฟเบิร์ด) มาจากอะไร? ชื่อนี้ตั้งตามพฤติกรรมของนกที่ชอบอยู่กันเป็นคู่ และตัวอยู่ติดกันตลอดเวลา เลยกลายเป็นนกสัญลักษณ์แห่งความรัก มีชื่อว่า Lovebird นั่นเอง

ประวัตินกเลิฟเบิร์ด (Lovebird)

ลักษณะของนกเลิฟเบิร์ด

ลักษณะของนกเลิฟเบิร์ด เป็นนกแก้วขนาดเล็ก ปากขอ ขนาดลำตัวยาวประมาณ 13-17 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 40-60 กรัม มีสีสันสดใสหลากหลายสี เช่น สีเขียว สีเหลือง สีน้ำเงิน สีขาว สีฟ้า สีแดง เป็นต้น นกเลิฟเบิร์ดมีอายุขัย 10-15 ปี ส่วนดวงตาจะมีอยู่สองแบบคือ แบบมีขอบตากับไม่มีขอบตา ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์อีกที วัยเจริญพันธุ์ของนกเลิฟเบิร์ดเริ่มที่อายุประมาณ 10 เดือน

วิธีเช็คว่านกเลิฟเบิร์ดเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย วิธีง่ายสุดคือการสังเกตพฤติกรรมของนกตัวผู้ ตัวเมีย โดยนกเลิฟเบิร์ดตัวผู้มีนิสัยขี้เล่น ซนๆ ชอบกัดเล่น มีความขี้อ้อนเจ้าของ เวลาเดินจะเดินแบบชิดๆ และจะคอยป้อนอาหารให้ตัวเมีย ส่วนนกเลิฟเบิร์ดตัวเมียจะเงียบ กัดแรง หวงพื้นที่ มักติดคู่มากกว่าเจ้าของ และเวลาเดินจะเดินถ่างขา ใครที่มีความชำนาญเรื่องนกเลิฟเบิร์ด อาจเช็คจากร่างกายของตัวนก นกเลิฟเบิร์ดเพศผู้มีกระดูกชิดกันตรงบริเวณใต้ท้องนก สะโพกเล็ก ตัวเล็กกว่าตัวเมีย ส่วนนกเลิฟเบิร์ดตัวเมียกระดูกช่วงใต้ท้องนกจะห่างกัน สะโพกผาย ตัวใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย อย่างไรก็ตามหากใครไม่มั่นใจเรื่องการเช็คเพศนกเลิฟเบิร์ด ใช้วิธีการตรวจเลือดดีที่สุด

ลักษณะของนกเลิฟเบิร์ดตัวผู้ ตัวเมีย

นกเลิฟเบิร์ดมีขอบตาและไม่มีขอบตา คืออะไร

ลักษณะของนกเลิฟเบิร์ดตรงบริเวณตาจะมีทั้งแบบมีขอบตาและไม่มีขอบตา ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ โดยจะมีนิสัยที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนี้

นกเลิฟเบิร์ดมีขอบตา (Eye-ring lovebird) ตรงบริเวณรอบดวงตามีขอบสีขาวล้อมรอบเป็นวงแหวน ตัวนกมีขนาดเล็ก ต้องเลี้ยงตั้งแต่เด็ก เพราะจะฝึกให้เชื่องยากกว่านกเลิฟเบิร์ดที่ไม่มีขอบตา สายพันธุ์นกเลิฟเบิร์ดมีขอบตาที่นิยม เช่น Masked Lovebird นกเลิฟเบิร์ดหัวดำหรือหน้ากากดำ

นกเลิฟเบิร์ดไม่มีขอบตา (Non-eye-ring lovebird) ดวงตาสีดำ ไม่มีขอบสีขาวล้อมรอบ ขนาดตัวใหญ่กว่านกเลิฟเบิร์ดที่มีขอบตา โดยคนนิยมเลี้ยงเพราะเชื่องง่าย สายพันธุ์นกเลิฟเบิร์ดไม่มีขอบตาที่นิยม เช่น Peach-faced Lovebird นกเลิฟเบิร์ดหน้าแดง

ข้อมูลเกี่ยวกับนกเลิฟเบิร์ดมีขอบตา ไม่มีขอบตา

นกเลิฟเบิร์ดสีไหนแพงสุด

นกเลิฟเบิร์ดราคาสูง จะขึ้นอยู่กับความนิยม ความหายาก ลักษณะและสี หากเป็นสีทั่วไปจะมีราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย แต่ถ้าสีที่หายาก จะมีราคาที่สูงขึ้น นกเลิฟเบิร์ดสีไหนมีราคาแพง หนึ่งในนั้นก็คือนกเลิฟเบิร์ดสีอัลบิโน่ (Albino) ตัวสีขาวตาแดง นกเลิฟเบิร์ดสีครีมมิโน่ (Creamino) ตัวสีเหลืองนวล ตาแดง และนกเลิฟเบิร์ดบลูหรือไวโอเลตโอพาไลน์ (Blue / Violet Opaline) ตัวสีฟ้าหรือม่วง โดยราคาสีนกเลิฟเบิร์ดที่พูดถึงนี้จะมีราคาเริ่มต้นที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท

นกเลิฟเบิร์ดสีไหนแพงสุด

สายพันธุ์นกเลิฟเบิร์ด มีกี่สายพันธุ์

สำหรับประเทศไทย ผู้คนนิยมเลี้ยงนกเลิฟเบิร์ดเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง และเพาะพันธุ์โชว์ ประกวดงานแข่งขันต่างๆ เอ็นโซ่ได้รวมสายพันธุ์นกเลิฟเบิร์ด ทั้ง 9 สายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงในไทยมีดังนี้

  • สายพันธุ์ Peach-faced Lovebird ไม่มีขอบตา ลักษณะของนกเป็นตัวสีเขียว บ้างก็มีสีเหลือง สีน้ำเงินปนมา หน้าแดงอมชมพู เชื่องง่าย เลี้ยงง่าย *นิยมเลี้ยงในไทย
  • สายพันธุ์ Fischer’s Lovebird มีขอบตา ลักษณะของนกเป็นตัวสีเขียว-เหลือง หน้าสีแดงหรือส้ม มีนิสัยก้าวร้าว *นิยมเลี้ยงในไทย
  • สายพันธุ์ Masked Lovebird หรือพันธุ์ Personatus มีขอบตา จุดเด่นคือตัวเขียว หัวดำเหมือนสวมหน้ากาก *นิยมเลี้ยงในไทย
  • สายพันธุ์ Nyasa Lovebird มีขอบตา ตัวสีเขียวหรือเหลือง ใบหน้าสีแดง, ตัวสีฟ้า ใบหน้าสีขาว *นิยมเลี้ยงในไทย
  • สายพันธุ์ Black Cheeked Lovebird มีจุดเด่นคือแก้มสีดำ *นิยมเลี้ยงในไทย
  • สายพันธุ์ Madagascar LoveBird ตัวเมียเป็นสีเขียวทั้งหมด ตัวผู้ลำตัวเป็นสีเขียว รอบๆ หัวเป็นสีขาว
  • สายพันธุ์ Abyssinian Lovebird ไม่มีขอบตา จุดเด่นคือหัวใหญ่ ตัวผู้มีหน้าสีแดง ในขณะที่ตัวเมียไม่มีสีแดง
  • สายพันธุ์ Black Collared Lovebird มีจุดเด่นคือบริเวณท้ายทอย มีสีดำคาดอยู่ หัวสีเขียว หางสีฟ้า
  • สายพันธุ์ Red Faced Lovebird ตัวสีเขียว ใบหน้าสีแดง

เห็นได้ว่านกเลิฟเบิร์ดจะแบ่งเป็นมีขอบตาและไม่มีขอบตา ดังนั้นไม่ควรผสมข้ามพันธุ์กัน เพราะอาจจะทำให้ความเด่นชัดของสายพันธุ์เดิมหายไป รวมถึงมีโอกาสเสี่ยงสูงที่ลูกออกมาจะเป็นหมัน ไม่สมบูรณ์แบบ

นกเลิฟเบิร์ด มีกี่สายพันธุ์

นิสัยของนกเลิฟเบิร์ด เป็นอย่างไร

ลักษณะนิสัยนกเลิฟเบิร์ดในภาพรวม มีดังนี้ เป็นนกที่เต็มไปด้วยพลังงาน มีความขี้เล่น กระตือรือร้น ร่าเริง ติดเจ้าของ แสดงความรักและขี้อ้อนอยู่บ่อยๆ ส่งเสียงร้องเพื่อเรียกความสนใจ และเลียนเสียงต่างๆ ได้ดี ยกเว้นการพูดที่ทำได้เล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีมุมที่รักความสงบในช่วงที่ต้องการพักผ่อนหรือมีเวลาเครียด และมีขู่บ้างเวลาหวงอาณาเขตของตัวเอง

พฤติกรรมของนกเลิฟเบิร์ดเวลาอยู่เป็นคู่ พวกมันจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ป้อนอาหารกัน ดูแลขนกัน และคอยปกป้องซึ่งกันและกันไปจนวันที่ตัวใดตัวหนึ่งตาย เมื่อคู่ของนกเลิฟเบิร์ดตายลง อีกตัวจะมีอาการเป็นซึมเศร้า ไม่อยากอาหาร เงียบ หรือมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เจ้าของจึงต้องดูแลและมอบความรัก หากิจกรรมให้น้องทำ หรือหานกตัวใหม่มาทำความรู้ เพื่อไม่ให้นกเหงา

ลักษณะนิสัยของนกเลิฟเบิร์ด

วิธีเลี้ยงนกเลิฟเบิร์ดให้เชื่อง

ใครเป็นมือใหม่เลี้ยงนกเลิฟเบิร์ด แล้วกำลังกังวลว่าจะเลี้ยงอย่างไรให้เชื่อง อ่านวิธีเลี้ยงนกเลิฟเบิร์ดให้เชื่องที่เอ็นโซ่ได้รวมมาไว้ให้แล้ว ดังนี้

1.สร้างสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและเหมาะสม ให้น้องชินอยู่กับการอยู่ในกรง พร้อมเสียงของเจ้า ห้ามพูดเสียงดังหรือตะคอกเด็ดขาด เตรียมขนาดกรงให้มีขนาดเหมาะสม ให้น้องได้บินเล่นไปมาได้ และสภาพแวดล้อมต้องไม่มีเสียงรบกวนจนเกินไป

2.หมั่นแสดงความรักและดูแลสม่ำเสมอ เจ้าของต้องมีเวลาเล่นกับน้อง ในแต่ละวันให้น้องได้ออกมาจากกรง ให้น้องเกาะที่มือหรือแขนเพื่อสร้างความสนิทสนม นอกจากนี้หาของเล่นให้น้องเล่น เพื่อกระตุ้นความกระตือร้น และไม่ให้น้องรู้สึกเบื่อ

3.พาฝึกฝนทุกวัน ฝึกวันละประมาณ 15-30 นาที อย่าลืมให้รางวัลน้องด้วยนะ

ต้องการให้นกเลิฟเบิร์ดเชื่อง เจ้าของต้องมีความอดทนและค่อยๆ ให้นกรู้จักการอยู่ร่วมกับมนุษย์ ใช้เสียงอ่อนโยน เล่นกับน้องทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสุดท้ายแล้วน้องจะไว้ใจและสนิทสนมกับเจ้าของมากขึ้น

ทำอย่างไรให้นกเลิฟเบิร์ดเชื่อง

นกเลิฟเบิร์ดกินอะไร

นกเลิฟเบิร์ดกินอะไรได้บ้าง โดยสามารถกินได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดพืช ที่เป็นอาหารหลักสำคัญ ผักและผลไม้สด แหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ อาหารเม็ดสำเร็จรูป มีสารอาหารที่ครบถ้วน ส่วนอาหารที่ห้ามให้นกเลิฟเบิร์ดทาน ได้แก่ อะโวคาโด ช็อกโกแลต หัวหอม กระเทียม ซึ่งเป็นพิษต่อนกเลิฟเบิร์ดและนกชนิดอื่นๆ ห้ามเผลอให้เด็ดขาด

อาหารที่นกเลิฟเบิร์ดกินได้ และกินไม่ได้

รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับนกเลิฟเบิร์ด

มาดูกันว่าคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับนกเลิฟเบิร์ดมีอะไรบ้าง พร้อมคำตอบ ให้คุณเข้าใจเรื่องนกเลิฟเบิร์ดมากยิ่งขึ้น

  • Opaline Lovebird คืออะไร? โอพาไลน์ เป็นคำที่ใช้เรียกลวดลายของนกเลิฟเบิร์ดที่เกิดจากมิวเทชัน (mutation) จะเป็นลวดลายพิเศษที่มีความสวยงาม ขนนุ่ม เงางามกว่านกเลิฟเบิร์ดทั่วไป
  • นกเลิฟเบิร์ดพูดได้ไหม? นกเลิฟเบิร์ดเป็นสายพันธุ์นกที่พูดไม่เก่ง พอเลียนแบบเสียงมนุษย์ได้บ้างเล็กน้อยเท่านั้น
  • นกเลิฟเบิร์ดเลี้ยงตัวเดียวได้ไหม? ไม่แนะนำให้เลี้ยงตัวเดียว เพราะธรรมชาติของนกเลิฟเบิร์ดเป็นสัตว์ที่ชอบสร้างความผูกพันให้กับคู่ของตัวเอง
  • นกเลิฟเบิร์ดร้องเสียงดังไหม? นกเลิฟเบิร์ดชอบร้องบ่อย และมีเสียงดัง แต่ไม่ได้ดังขนาดที่รับไม่ไหว
  • นกเลิฟเบิร์ดอยู่ได้กี่ปี? นกเลิฟเบิร์ดมีอายุขัยเฉลี่ย 10-15 ปี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนกเลิฟเบิร์ด

โรคที่ต้องระมัดระวังในนกเลิฟเบิร์ด

นกเลิฟเบิร์ด มีโรคหรือปัญหาสุขภาพที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนี้

  • ไข้หวัด นกจะมีอาการขนพอง จาม ไม่อยากอาหาร สาเหตุมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน
  • โรคตาแดง ตาแข็ง เกิดจากการที่นกไปสัมผัสฝุ่น หรือโดนยุงเข้ามาทำร้าย เจ้าของต้องหมั่นทำความสะอาดกรงและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี
  • โรคฝีดาษ โรคที่เกิดจากยุงเป็นพาหะนำโรค ซึ่งแพร่เชื้อได้ง่าย หากเป็นฝีดาษชนิดเปียก จะมีความรุนแรงมากกว่าชนิดแห้ง ทำให้นกหายใจลำบาก กินอาหารไม่ได้ ถึงขั้นเสียชีวิต
ปัญหาสุขภาพในนกเลิฟเบิร์ดที่พบบ่อย

ข้อดี-ข้อเสียของนกเลิฟเบิร์ด

นกเลิฟเบิร์ด เหมาะกับคนที่มีเวลาเลี้ยงและมีเวลาที่จะฝึกนก เพราะหากปล่อยปละละเลยจะทำให้นกไม่เชื่อง มีความเครียด และมีอาการซึมเศร้าได้ มาเช็คกันอีกครั้งว่าข้อดี-ข้อเสียของนกเลิฟเบิร์ด มีอะไรบ้าง

ข้อดีของนกเลิฟเบิร์ด

  • มีนิสัยร่าเริง สร้างความสดใสให้กับเจ้าของ
  • ขี้อ้อน รักเจ้าของ หากได้รับการฝึกที่ดี
  • เป็นนกขนาดเล็ก เลี้ยงง่าย สีสันสวยงาม

ข้อเสียของนกเลิฟเบิร์ด

  • อยู่ตัวเดียวไม่ค่อยได้ ต้องอยู่เป็นคู่
  • ชอบเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ
  • หากเสียคู่ จะมีอาการเซื่องซึม
เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของนก Lovebird

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลนกเลิฟเบิร์ดที่เอ็นโซ่ได้รวมมาไว้ให้ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจพฤติกรรมของนกเลิฟเบิร์ด รวมถึงรู้จักสายพันธุ์อื่นๆ และประวัติความเป็นมา ใครอยากมีนกเลิฟเบิร์ดเป็นของตัวเอง หรือกำลังทำธุรกิจเปิดฟาร์มนกเลิฟเบิร์ด มาซื้อขายนกเลิฟเบิร์ดได้ที่ ENNXO ตลาดสัตว์เลี้ยงออนไลน์ ลงขายนกฟรี ใช้งานง่าย เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ได้แบบง่ายๆ ที่ ENNXO

ซื้อขายนก Lovebird ราคาถูก

แชร์ไปยัง :

Share on Line