“เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดบนโลก อาจมิใช่สิ่งเหนือธรรมชาติใดๆ แต่เป็นจิตใจมนุษย์ที่ซับซ้อน และไร้ซึ่งสามัญสำนึก”
- เกมอินดี้ ที่เล่าเรื่องราวจากปากของเหยื่อจริงๆ
- STORY TELLING เล่าอย่างไร ให้คนเล่น เล่นแล้วอิน
- เพราะผู้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีเวลามานั่งตัดสินใจ
บนโลกนี้มีผู้คนอยู่หลากหลายรูปแบบนับไม่ถ้วน ทั้งผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อะไร พยายามใช้ชีวิตของตนเองให้ดีที่สุดในแต่ละวัน และผู้ที่จ้องจะฉวยโอกาสเล่นงานผู้คนรอบตัวเพื่อผลประโยชน์ของตนเองอยู่เสมอ
ความหลากหลายของผู้คนต่างปะปนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ตามพฤติกรรมที่สะท้อนจากการศึกษา และปัจจัยการถูกอบรมสั่งสอน เราไม่แม้แต่จะทราบเลยว่าใครกันที่เข้าหาเราด้วยความหวังดี หรือด้วยผลประโยชน์กันแน่ แบบที่เราไม่สามารถทราบเลยว่า จิตใจของมนุษย์สามารถโหดร้ายได้ขนาดนี้กันเชียวหรือ?
Fears to Fathom หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าเกม F2F เป็นหนึ่งในเกมอินดี้แนวจิตวิทยาที่สามารถสะท้อนเรื่องราวอุทาหรณ์น่ากลัวให้แก่คนทั่วไปบนโลกนี้ได้ เป็นหนึ่งในที่มีกระแสดีเป็นอย่างมาก ดีถึงขนาดติดชาร์ตเกมใหม่ที่ Trending บน Steam กันเลยทีเดียว ในวันที่ 10 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา
โดยตัวเกมได้ถูกพัฒนาและเผยแพร่โดยคุณ Rayl ผู้ที่ทำ Project ตัวเกมนี้แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นโปรเจกต์เกมอินดี้ที่ทำเพียงแค่คนเดียว แต่ความน่ากลัว และการลุ้นระทึกภายในเกม รวมถึงจังหวะ Jumpscare นั้น ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย
เกมอินดี้ ที่เล่าเรื่องราวจากปากของเหยื่อจริงๆ
เกม Fears to Fathom ถูกแบ่งออกเป็น 5 เรื่องเล่าสยองขวัญผ่านประสบการณ์ “ที่เกิดขึ้นจริง” ของผู้เล่าเรื่องทั้ง 5 ชีวิต ที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาต้องเป็นเหยื่อในเรื่องราวเหตุการณ์คืนอันแสนทรหด ที่ยากจะลืมได้
เรื่องราวของ 5 คืนสยองเฉียดตาย ที่ผู้เล่าต่างสละเวลามานั่งเล่าให้ผู้คนบนโลกใบนี้ฟัง ทิ้งไว้เป็นเรื่องราวอุทาหรณ์ สอนให้พวกเราต่างใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท ระมัดระวังตัวไม่ว่าจะเวลาออกเดินทางจากบ้านของตัวเองไปสถานที่ใดๆ ก็ตามแต่ หรือแม้แต่การนั่งทานข้าวสบายๆ อยู่ภายในบ้านของตนเอง ก็สามารถเจอภัยร้ายๆ ได้เหมือนกัน และแย่ไปกว่านั้น ที่เรื่องราวต่างๆ นี้ เกิดขึ้นจากการเล่นงานของมนุษย์ด้วยกันเอง
อีกทั้งในหลากหลายความคิดเห็น และกระแสตอบรับจากผู้เล่นทั่วโลก ต่างกล่าวว่าความน่ากลัวของเกมนี้ มิใช่ความน่ากลัวที่ผู้เล่นจะต้องเผชิญกับภูตผีปีศาจ หรือสิ่งเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด แต่กลับเป็นความน่ากลัวที่ผู้เล่นต้องคอยลุ้นระทึก หลบหนี หรือเข้าเผชิญหน้าสู้กับมนุษย์ด้วยกันเอง ผ่านมุมมองตัวละครบุคคลที่ 1 ซึ่งก็คือผู้เล่าเรื่องในบทบาทเหยื่อของเหตุการณ์เหล่านั้นจริงๆ ที่ต้องเผชิญ
STORY TELLING เล่าอย่างไร ให้คนเล่น เล่นแล้วอิน
หากแปลแบบตรงไปตรงมา Story Telling ก็คือการเล่าเรื่องราว แต่การเล่าเรื่องภายในเกมนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการเล่าจากปากเปล่าแล้วจบ แต่หนึ่งในเสน่ห์ของเกมตัวนี้ที่ทำให้มีแฟนๆ อินกับเรื่องราว และต่างรอคอยการกลับมาของตอนใหม่ๆ ภายในเกมชุดนี้อยู่เสมอ นั่นก็คือการ “เล่าเรื่องราว” ในเชิงการถ่ายทอดเนื้อหาภายในเกม ที่ส่งเนื้อเรื่องราวสุดสยองขวัญให้แก่ผู้เล่นได้อย่างครบรส ไร้ที่ติ
ตัวเกม Fears to Fathom เป็นเหมือนการอ่านเรื่องเล่าผ่านเสียงตัวละครคนหนึ่ง เพราะการนั่งฟังอย่างเดียวอาจจะทำให้เรานึกภาพ บรรยากาศ หรือสถานการณ์ที่ตัวละครหลักเจอในตอนนั้นๆ ไม่ออก ผู้สร้างเกมจึงได้ใส่บรรยากาศภายในเกม ฉาก เพลง และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ถูกถอดแบบตรงกับสิ่งที่ผู้เล่าเรื่องกำลังเล่าให้ผู้เล่นสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบกับการที่ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นผู้เล่าเรื่องรายนั้น ทำภารกิจง่ายๆ ตามที่ผู้เล่ากำลังเล่าให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปหยิบของ การส่งข้อความตอบบนโทรศัพท์มือถือ การเดินลงไปซื้อของในมินิมาร์ต และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นภารกิจที่ง่าย และเสมือนการทำกิจวัตรประจำวันหนึ่งวันโดยปกติของมนุษย์ ดังนั้น เพราะความเรียบง่ายของมัน ทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
ผู้สร้างเกม ต่างถูกชื่นชมเรื่องการสร้างสถานการณ์ และสภาพบรรยากาศเพื่อสร้างความรู้สึกกลัว และความพะวงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อในไม่กี่วินาทีต่อไป ให้ผู้เล่นได้ลุ้นอยู่อย่างตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของ จังหวะ Jumpscare (ฉากตุ้งแช่) ที่ในมุมมองผู้เล่น ถึงแม้ฉากเหล่านั้นจะโผล่มาเพียงแว็บเดียวให้เราได้ตกใจ แล้วก็หายไป แต่สำหรับมุมมองผู้พัฒนาเกม การที่จะทำฉาก Jumpscare สักฉากหนึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะก่อนที่จะ Jumpscare ผู้เล่น ก็ต้อง build อารมณ์ และบรรยากาศต่างๆ มิเช่นนั้น ฉากเหล่านั้น ก็จะดูใส่มาแล้วตลกทันที
สิ่งสำคัญเลยคือ ผู้พัฒนาเกมต้องสร้างจังหวะที่ “ผู้เล่นรอคอย” คาดเดาไว้แล้วว่าเดี๋ยวจะมีตัวร้ายปรากฏตัวมาอย่างกะทันหันในฉากนี้ เพราะเมื่อคาดเดาได้แล้ว ผู้พัฒนาเกมต้องใส่ฉาก Jumpscare ในช่วงที่ผู้เล่น “ไม่ทันได้ตั้งตัว” เพื่อสร้างความตกอกตกใจ เป็นอีกหนึ่งความบันเทิงที่ผู้ชื่นชอบเกมผีต่างรอคอยที่จะผ่านไปในแต่ละฉาก
นอกจากฉาก Jumpscare ภายในเกมที่ใส่มาอย่างถูกจังหวะ ไม่มาก และน้อยจนเกินไป พอหอมปากหอมคอแล้วนั้น การลำดับเหตุการณ์ และเลือกว่าเหตุการณ์ไหนที่ผู้เล่นควรได้ลองเข้าไปสัมผัส หรือช่วงไหน ที่ผู้เล่นสามารถพักหายใจ อ่านเป็นข้อความที่เหยื่อตัวจริงได้เขียนบรรยายเอาไว้แต่เพียงอย่างเดียว ก็สามารถรับรู้ถึงความหวาดกลัวที่ผู้ประสบภัยรายนั้นได้รับแล้ว และในเนื้อเรื่องบางตอน ยังมีตอนจบที่หักมุม และมีตอนจบหลากหลายรูปแบบ ให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัสประสบการณ์สุดระทึกในครั้งนั้นด้วยตัวคุณเอง
เพราะผู้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีเวลามานั่งตัดสินใจ
เพราะพอเราได้สวมบทบาทอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นแล้ว ความระทึกขวัญมันทวีคูณยิ่งกว่าแค่ฟังเขานั่งเล่าเฉยๆ เสียอีก แถมบางเหตุการณ์ ยังเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ใกล้ตัวมาก ทำให้ผู้คนต่างระแวง และหวาดกลัวกันไปตามๆ กัน
เพื่อความสมจริง เกม Fears to Fathom นี้ จึงมีตอนจบที่แตกต่างกันไป ตามการตัดสินใจของผู้เล่นที่เล่นในแต่ละรอบ และความเชี่ยวชาญในการเล่นเกมของผู้เล่นในแต่ละครั้ง เพราะในเกมนี้ ผู้พัฒนาได้สร้าง Function สุดท้าทายผู้เล่น นั่นก็คือระบบจับความดัง-เบาเสียงผ่านไมค์ของเราอีกด้วยนั่นเอง ดังนั้น ในช่วงเวลาที่คุณต้องหลบซ่อน แต่คุณเกิดพูดเสียงดังจนเกินไป ผู้ร้ายก็จะสามารถเจอตัวคุณได้ในท้ายที่สุดเช่นกัน
ซึ่งก็สอดคล้องกับความเป็นจริง ที่เหยื่อไม่มีเวลามานั่งตัดสินใจ หรือไม่มีโอกาสได้กรีดร้องตกใจในช่วงเวลาที่บีบบังคับให้ต้องทำอะไรสักอย่าง ณ ตอนนั้น ซึ่งก็ถือว่า ต้องขอบคุณเหล่าผู้รอดชีวิตทั้ง 5 ที่มีสตินำพาตัวเองออกมาจากเรื่องราวร้ายๆ เหล่านี้ได้ แถมยังมานั่งเล่าเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนทั้งโลกได้ฟัง ให้แง่คิดแก่พวกเราในการใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท ทั้งนี้ตอนจบในแต่ละเรื่องราวจะเป็นอย่างไรกันนั้น “คุณ” คือผู้กำหนดชะตากรรมตัวละครของคุณในครั้งนี้
ปัจจุบัน (บทความเผยแพร่ในวันที่ 17 มกราคม 2023) เกม Fears to Fathom ถูกเผยแพร่ออกมาแล้ว 3 ตอน จาก 5 ตอน นั่นก็คือ Home Alone, Norwood Hitchhike และ Carson House ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อ 9 มกราคมที่ผ่านมานี้
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้คนบนโลกต่างใช้ชีวิตบนปัจจัยที่แตกต่างกัน ถึงอย่างนั้นเอง ความแตกต่างที่กล่าวมา ก็มิใช่ข้อแก้ตัว หรือช่องโหว่ในการกระทำความผิด และสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นแต่อย่างไร ขอขอบคุณผู้เล่าเรื่องทั้ง 5 คน ที่ออกมาเป็นกระบอกเสียง และอุทาหรณ์ให้แก่ใครหลายๆ ท่าน รวมถึงผู้พัฒนาเกมที่ไม่มองข้ามเรื่องราวเล็กๆ ที่ควรได้รับความยุติธรรมจากบุคคล 5 ท่านนี้
หากต้องการทราบว่าเรื่องราวทั้ง 3 ตอนที่ปล่อยออกมาแล้วเป็นเช่นไร สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ด้วยตัวคุณเองที่ …