สารบัญ
มือใหม่หัดขับรถต้องรู้ หลังจากมีรถยนต์แล้วสิ่งที่ตามมานั้นคือการบำรุงรักษา โดยวันนี้เราจะแชร์วิธีการเลือกขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสม และปลอดภัยต้องเลือกอย่างไร สอนวิธีดูยางล้อรถว่าดูตรงไหน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เราพร้อมมาไขข้อสงสัยให้แล้ววันนี้
รวมเรื่องควรรู้เกี่ยวกับขนาดยางรถยนต์อย่างที่ทราบกันว่ายางรถยนต์นั้นเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนเกิดความปลอดภัย ซึ่งยางรถยนต์ที่ดีที่สามารถรองรับการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น จะต้องคำนึงถึงขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถ โดยเราได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับขนาดยางรถยนต์มาให้แล้ว
ก่อนจะไปถึงการเลือกขนาดยางรถยนต์ เรามาทำความรู้จักกับ 3 ประเภทหลัดๆ ของยางรถยนต์กันก่อน ดังนี้
1. Highway Terrain
Highway Terrain เรามักจะเห็นเป็นชื่อย่อ HT ยางรถยนต์ประเภทนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด และเป็นยางมาตรฐานที่ใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อีกด้วย สำหรับการใช้งานนั้นจะเหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันบนท้องถนนทั่วไป ความพิเศษของยาง HT คือดอกยางมีขนาดเล็ก เรียบ และละเอียด เวลาขับรถจึงให้ความรู้สึกนิ่ง เงียบสงบ
2. All Terrain
All Terrain เรามักจะเห็นเป็นชื่อย่อ AT ยางประเภทนี้จะนิยมใช้กับรถกระบะประเภท 4x4 เพราะตัวดอกยางมีขนาดใหญ่ และหนากว่ายางแบบ HT ซึ่งสามารถใช้งานแบบลุยได้ประมาณหนึ่ง อย่างเช่นการขับบนทางดินธรรมชาติ, ทางที่เป็นหลุม หรือบ่อเลน เป็นต้น การใช้งานสามารถสลับมาใช้บนถนนปกติก็ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีเสียงที่ดังกว่าการใช้ยางรถยนต์แบบ HT
3. Mud Terrain
Mud Terrain เรามักจะเห็นเป็นชื่อย่อ MT ยางประเภทนี้เหมาะกับการขับแบบลุยๆ อย่างรถออฟโรดโดยเฉพาะ เพราะยางมีขนาดใหญ่ ร่องยางลึก จะขับไปลุยน้ำหรือลุยดินก็สบาย การขับรถโดยใช้ยาง MT จะไม่นิยมนำมาใช้ขับขี่บนท้องถนนทั่วไป เพราะนอกจากเปลืองเชื้อเพลิงรถยนต์แล้วนั้น ยางรถอาจจะไม่เกาะถนนจึงมีโอกาสเกิดยางลื่นได้อีกด้วย
ตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยางบอกอะไรบ้าง?
เคยสงสัยกันไหมว่าตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยางนั้นหมายความว่าอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเหล่านั้นกัน
ตัวเลขบนยาง
ตัวเลข 1822 ตามในรูปหมายถึง สัปดาห์และปีที่ผลิต โดยวิธีดูเราจะต้องดูตัวเลขเป็นคู่ จากตัวอย่าง เลขคู่หน้า 18 หมายถึง ยางผลิตในสัปดาห์ที่ 18 ของปี ส่วนเลขคู่หลัง 22 หมายถึง ปี ค.ศ. ที่ผลิต สรุปได้ว่ายางในรูปผลิตขึ้นในสัปดาห์ที่ 18 ของปี 2022
ตัวอักษรบนยาง
เราได้ยกตัวอย่างเลขบนแก้มยางมา คือเลข 205/55R16 91V
จากรูป เลข 205 หมายถึง หน้ากว้างของยางล้อรถ หน่วยวัดเป็น มิลลิเมตร (มม.)
ตัวเลข 55 หมายถึง ซีรีส์หรือความสูงของแก้มยาง หน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ วิธีคำนวณออกมาเป็นความสูง/มิลลิเมตร คำนวณโดยการใช้ หน้ากว้าง x ความสูงแก้มยาง (%) = ความสูงแก้มยาง (มม.)
ตัวอย่าง
205 x 55% = 112.75 เท่ากับว่ารถคันนี้มีความสูงของแก้มยาง 112.75 มิลลิเมตร
ตัวอักษร R หมายถึง โครงสร้างยางแบบเรเดียล (Radial) คือยางรถยนต์ที่มีโครงสร้างเป็นชั้นผ้าใบพันรอบยางในมุม 90 องศา ช่วยสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงกับล้อ
กรณี ตัวอักษร D หมายถึง เป็นยางผ้าใบ (Diagonal or Bias Ply) คือยางรถยนต์ที่นำผ้าใบมาเรียงซ้อนกันแบบเฉียงไปมาหลายๆ ชิ้น
ตัวเลข 16 หมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางของวงล้อ หน่วยเป็น นิ้ว (ภาษาพูดนิยมเรียก “ล้อขอบ 16 นิ้ว”)
ตัวเลข 91 หมายถึง ค่าดัชนีในการรับน้ำหนักของยางต่อเส้นที่สามารถรองรับได้ ตัวเลขส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 60 - 179 การรับน้ำหนักก็อยู่ที่ 250 - 7,750 กิโลกรัม
Load Index | กิโลกรัม | Load Index | กิโลกรัม |
80 | 450 | 96 | 710 |
81 | 462 | 97 | 730 |
82 | 475 | 98 | 750 |
83 | 487 | 99 | 775 |
84 | 500 | 100 | 800 |
85 | 515 | 101 | 825 |
86 | 530 | 102 | 850 |
87 | 545 | 103 | 875 |
88 | 560 | 104 | 900 |
89 | 580 | 105 | 925 |
90 | 600 | 106 | 975 |
91 | 615 | 107 | 1000 |
92 | 630 | 108 | 1030 |
93 | 650 | 109 | 1060 |
94 | 670 | 110 | 1090 |
95 | 690 | 111 | 1120 |
ตัวอักษร V หมายถึง ขีดจำกัดความเร็วสูงสุด สำหรับตัวอักษร V ยางสามารถรับความเร็วสูงสุดได้ที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ตัวอักษร | ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) |
N | 140 |
P | 150 |
Q | 160 |
R | 170 |
S | 180 |
T | 190 |
H | 210 |
V | 240 |
W | 270 |
Y | 300 |
หาขนาดยางรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ได้ที่ไหน?
รู้วิธีการอ่านตัวเลขบนแก้มยางรถยนต์กันไปแล้ว มีใครสงสัยไหมว่าจะหาขนาดยางรถยนต์ที่เราใช้งานอยู่ได้ที่ไหน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการใช้ขนาดยางรถยนต์นั้นควรใช้ให้ตรงกับคู่มือประจำรถที่ติดมากับรถยนต์ของคุณจะดีกว่า โดยคุณสามารถหาขนาดยางรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ได้ดังนี้
1. บริเวณบานประตูฝั่งคนขับ
2. ช่องเก็บของด้านหน้า
3. บริเวณฝาถังเติมน้ำมัน
วิธีเลือกขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถของเรา
ในการเลือกขนาดยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถของเรานั้นก็เป็นอีกข้อสำคัญที่คุณต้องรู้ เพราะการทำงานของยางรถยนต์คือ การรองรับน้ำหนัก และลดแรงสั่นกระแทกของรถ ซึ่งการเลือกยางรถยนต์แบบง่ายๆ นั้นสามารถดูได้จากคู่มือที่ติดมากับรถยนต์
โดยในคู่มือจะระบุถึง ขนาดยางรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน, แรงดันลมยาง และน้ำหนักยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถรุ่นนั้นๆ ซึ่งขนาดยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถนั้นๆ จะมีขนาดใดบ้าง ดังนี้
- รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ไม่เกิน 1,500 cc ควรใช้ยางขนาด 185/60 R15 หรือ 195/55 R15
- รถยนต์นั่งขนาดกลาง ไม่เกิน 2,000 cc ควรใช้ยางขนาด 215/50 R17
- รถกระบะ ดีเซล 2.5 - 3.0 ลิตร ควรใช้ยางขนาด 215/65 R16 หรือ 265/60 R18
ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไหร่?
เราควรจะเปลี่ยนยางรถเมื่อไร เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่คนขับรถมือใหม่ต้องรู้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ายางรถยนต์เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ จะมีการเสื่อมสภาพลงตามอายุการใช้งานแน่นอน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในการขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัยนั้นควรเปลี่ยนยางเมื่อมีอายุครบ 2 ปี หรือมีเลขไมล์วิ่งครบ 50,000 กิโลเมตร แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น เราก็มีวิธีการสังเกตง่ายๆ ว่าเมื่อไรควรเปลี่ยนยางรถยนต์
- สังเกตบริเวณยางรถยนต์ว่ามีรอยปริ หรือรอยแตกหรือไม่
- ลองเอามือกดยางรถยนต์ เมื่อกดแล้วสัมผัสที่ได้ให้ความรู้สึกแข็งกระด้าง
- ดอกยางกับสะพานยางดอกยางอยู่ในระนาบเดียวกัน เพราะตามปกติแล้วดอกยางกับสะพานยางต้องมีความลึกอย่างน้อย 1.6 มิลลิเมตร ถึงจะมั่นใจได้ว่ายางรถยนต์ยังอยู่ในสภาพดี
- แก้มยางมีลักษณะบวม นูนออกมา
ตามที่ลิสต์ข้างต้นหากยางรถยนต์ของคุณอยู่ในลิสต์ข้อใดข้อหนึ่ง นั่นคือสัญญาณที่ยางรถยนต์กำลังบอกว่าถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มเปลี่ยนยางรถยนต์แล้ว
เรียนรู้วิธีการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณแล้ว หลังจากนี้คุณก็สามารถเลือกขนาดยางรถยนต์ที่ขับแล้วปลอดภัย รวมถึงรู้วิธีการอ่านตัวเลขและตัวอักษรบนยางรถยนต์ เพียงเท่านี้การขับขี่บนท้องถนนของคุณก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มาถึงตรงนี้หากคุณกำลังมองหาตลาดรถยนต์มือสอง อย่าลืมมาดูที่ ENNXO.COM (เอ็นโซ่) เราเป็นตลาดขายรถยนต์มือหนึ่ง มือสองออนไลน์ ติดต่อง่าย สามารถดำเนินการได้ที่นี่เลย