หนูแฮมสเตอร์ มีกี่สายพันธุ์ อยากเลี้ยงแฮมเตอร์ ต้องเตรียมอะไรได้บ้าง

สารบัญ
หนูแฮมสเตอร์ (Hamster) เจ้าหนูตัวจิ๋วแก้มป่องที่ใครเห็นก็ต้องหลงรัก เรียกได้ว่าแก้มตุ่ยๆ ที่เราเห็นกันนั้นคือเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของพวกมันเพราะตามธรรมชาติแล้วหนูแฮมเตอร์เป็นสัตว์ที่เก็บอาหารไว้ในแก้ม พวกมันจะชอบหากินตอนกลางคืนแล้วสะสมอาหารไว้ในกระพุ้งแก้มแล้วจะทยอยเอาออกมากินเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากเจ้าแฮมสเตอร์จะชอบเก็บอาหารไว้ในแก้มแล้ว พวกมันยังมีนิสัยฉลาด ขี้เล่น และท่าทางที่เป็นมิตรของมันก็ชวนให้หลายคนอยากลองเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ดูสักครั้ง ซึ่งเราก็จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับประวัติหนูแฮมสเตอร์ว่ามาจากไหน นิสัยอย่างไร เลี้ยงดูยากไหม พร้อมชี้แหล่งซื้อแฮมสเตอร์ ที่ไหนดี หาคำตอบไปพร้อมกันเลยที่นี่

ประวัติหนูแฮมสเตอร์เป็นอย่างไร
ต้นกําเนิดของแฮมสเตอร์มาจากไหน? เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชินกับหนูสายพันธุ์นี้อยู่แล้วเพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยงกันโดยทั่วไป แต่รู้หรือไม่แฮมสเตอร์เกิดมาจากแถบพื้นที่ป่าทางตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรปในโซนตะวันออกกลาง และเอเชีย เห็นหนูตัวเล็กๆ แบบนี้แต่เจ้าแฮมสเตอร์อาศัยอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งตามธรรมชาติ และถูกค้นพบครั้งแรกที่ทะเลทรายซีเรียในปี 1930 ซึ่งสายพันธุ์นี้ได้ชื่อว่า ไซเรียน แฮมสเตอร์ (Syrian Hamster) หรือที่รู้จักในชื่อแฮมสเตอร์สีทอง, แฮมสเตอร์ ไจแอนท์ ซึ่งในภายหลังหนูแฮมสเตอร์ไซเรียนได้กลายเป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุด
ซึ่งนอกเหนือจากการค้นพบหนูแฮมสเตอร์สีทองแล้ว ยังมีการค้นพบแฮมสเตอร์สายพันธุ์อื่นๆ ในพื้นที่ที่ต่างกันออกไปด้วย อย่างหนูแฮมสเตอร์ที่ถูกค้นพบในยุโรปพวกมันเป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดตัวใหญ่ และนิสัยดุกว่าแฮมสเตอร์สีทอง นอกจากนี้แล้วชื่อ “แฮมสเตอร์” มาจากภาษาเยอรมัน “แฮมสเติร์น” ที่แปลว่ากักตุน เป็นการตั้งชื่อตามลักษณะเด่นของเจ้าแฮมสเตอร์นั่นเอง

แฮมสเตอร์มีกี่สายพันธุ์
จากการศึกษาพบว่าหนูแฮมสเตอร์นั้นมีถึง 24 สายพันธุ์ด้วยกัน แต่มีหนูแฮมสเตอร์ เพียง 5 สายพันธุ์เท่านั้นที่นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์ในบ้าน นอกจากนั้นแล้วในปัจจุบันแฮมสเตอร์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาตินั้นมีปริมาณน้อยลงมาก เนื่องจากสภาพอากาศและสภาพภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้หนูแฮมสเตอร์ที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั้นมาจากการเพาะพันธุ์ในฟาร์มเพื่อการเลี้ยงดูโดยเฉพาะนั่นเอง มาดูกันว่าหนูแฮมสเตอร์ 5 สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงมีอะไรบ้าง
- แฮมสเตอร์ ซีเรียน (Syrian Hamster) หลายคนรู้จักในชื่อ แฮมสเตอร์สีทอง หรือแฮมสเตอร์ ไจแอนท์ เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด และมีขนาดตัวใหญ่ที่สุดความยาวประมาณ 12-18 เซนติเมตร ที่พบส่วนใหญ่เป็นสีทอง, สีครีม, สีดำ และสีขาว มีนิสัยอยากรู้อยากเห็นแต่ไม่ชอบการเข้าสังคม ชอบออกหากินตอนกลางคืน ไม่นิยมเลี้ยงรวมกัน
- แฮมสเตอร์ แคมเบล (Campbell Hamster) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์หนูแฮมสเตอร์ที่เชื่องที่สุด มีขนาดตัวยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร มีนิสัยชอบกัดชอบแทะ สายพันธุ์นี้น้องค่อนข้างเป็นมิตรสามารถเลี้ยงร่วมกับตัวอื่นๆ ได้
- แฮมสเตอร์ วินเทอร์ไวท์ (Winter White Dwarf Hamster) มี 4 สีที่พบบ่อยได้แก่สีขาว, เทา, บรอนซ์ และเทา-ขาว ขนาดตัว 8-10 เซนติเมตร จุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือพวกมันจะเปลี่ยนขนเป็นสีขาวในฤดูหนาว
- แฮมสเตอร์ ไชนีส (Chinese Hamster) เป็นสายพันธุ์ที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ พวกมันมีใบหน้าที่เรียวกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และมีหางที่ยาว ขนาดลำตัวประมาณ 10-12 เซนติเมตร
- แฮมสเตอร์ โรโบรอฟสกี้ (Roborovski Dwarf Hamster) เป็นสายพันธุ์หนูแฮมสเตอร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดขนาดตัวอยู่ที่ประมาณ 4-5 เซนติเมตร นอกจากนี้แล้วมันยังมีนิสัยที่เชื่อง และมีความว่องไวมาก

ลักษณะเด่นของหนูแฮมสเตอร์มีอะไรบ้าง
แฮมสเตอร์เป็นสัตว์ประเภทเลี้ยงลูกด้วยนม พวกมันเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยลักษณะของหนูแฮมเตอร์ขนาดตัวเฉลี่ย 5-15 เซนติเมตร ใบหน้ากลมมนและแก้มตุ่ยเพราะเก็บอาหารไว้ในกระพุ้งแก้มตลอดเวลา หนูแฮมสเตอร์มีขาที่สั้นแต่กลับวิ่งเร็วเอามากๆ แต่น่าเสียที่พวกมันกลับมีวงจรชีวิตที่สั้นอายุขัยเพียง 2-3 ปีเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นตลอดเวลาที่เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ก็สามารถมั่นใจว่าพวกมันจะสร้างความสุขให้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เป็นสัตว์ที่เก็บอาหารไว้ในแก้ม
ทําไมหนูแฮมสเตอร์ถึงเก็บอาหารไว้ในแก้ม? อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าหนูแฮมสเตอร์มักจะแก้มป่องอยู่ตลอดเวลา สาเหตุมาจากความต้องการเก็บอาหารไว้กินในยามปลอดภัย ตามธรรมชาติของแฮมสเตอร์ที่มักจะออกหากินตอนกลางคืน (ตอนกลางวันจะชอบหลบอยู่ในโพรง) เมื่อพวกมันได้อาหารแล้วจะไม่กินทันทีแต่เก็บเอาไว้เรื่อยๆ ในโพรง และรอจนกว่าจะปลอดภัยจากการถูกล่าถึงจะเริ่มกินอาหาร
มีวงจรชีวิตสั้น
หากถามว่าวงจรชีวิตของหนูแฮมสเตอร์เป็นอย่างไร เพราะด้วยอายุเฉลี่ยของแฮมสเตอร์ที่มีอายุประมาณ 2-3 ปีเท่านั้น โดยลูกหนูแฮมสเตอร์จะเริ่มโตเต็มที่เมื่ออายุได้ประมาณ 4-5 สัปดาห์ และหนูแฮมสเตอร์เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ตอนอายุเฉลี่ย 14 สัปดาห์ มีระยะตั้งครรภ์ประมาณ 15-25 วัน และหนูแฮมสเตอร์เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เมื่ออายุได้ 1-2 ปี ซึ่งหากหนูได้รับการเลี้ยงดูที่ดีหนูแฮมสเตอร์อยู่ได้ยาวถึง 3 ปีเลยทีเดียว

นิสัยของแฮมสเตอร์เป็นอย่างไร
หนูแฮมสเตอร์ ลักษณะนิสัยของมันค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัว ต่อให้มันจะขี้เล่นขนาดไหนแต่มันจำเป็นต้องมีพื้นที่เป็นของตัวเองในการอยู่อาศัยและทานอาหาร นอกจากนี้แล้วหนูแฮมสเตอร์ยังรักความสะอาด พวกมันมักจะเลียขนทำความสะอาดตัวเองเป็นประจำ แถมยังมีความอยากรู้อยากเห็นชอบสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว พวกมันชอบกัดแทะมากๆ นอกจากนี้แฮมสเตอร์ยังไม่ชอบถูกรบกวนตอนกลางวันซึ่งเป็นเวลาพักผ่อนของพวกมัน หากไปรบกวนเจ้าหนูอาจแสดงพฤติกรรมไม่พอใจออกมาได้

วิธีเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์
การเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นั้นสำหรับผู้ที่ไม่เคยเลี้ยงมาก่อนอาจจะรู้สึกกังวลใจกับการเริ่มเลี้ยงได้ ซึ่งขอบอกไว้ตอนนี้เลยว่าหนูแฮมสเตอร์นั้นเลี้ยงไม่ยาก มือใหม่สามารถเลี้ยงได้ โดยมีขั้นตอนและการเตรียมตัวเบื้องต้น ดังนี้
หนูแฮมสเตอร์กินอะไร
สำหรับอาหารที่เหมาะกับหนูแฮมสเตอร์นั้นควรให้พืชเป็นหลัก โดยแนะนำว่าเมล็ดพืชหรือธัญพืชเป็นอาหารที่เหมาะกับการเตรียมให้หนูแฮมสเตอร์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดทานตะวัน, เมล็ดฟักทอง, เมล็ดข้าวโพด หรือจะเป็นข้าวสาลีก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วผักสดหรือผลไม้ก็เป็นสิ่งที่หนูบางตัวชื่นชอบคุณสามารถลองให้กินผักกาด, แครอท หรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ได้
สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคืออาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือพวกเปลือกธัญพืช เมล็ดองุ่น กระเทียม ช็อกโกแล็ต เป็นต้น
หนูแฮมเตอร์ชอบอยู่แบบไหน
การจัดเตรียมสถานที่เลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นั้นแนะนำว่าให้เลี้ยงน้องในกรงหรือจะเป็นตู้กระจกคล้ายๆ ตู้ปลา และควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีแสงและเสียงดังเพราะอาจจะทำให้แฮมสเตอร์มีอาการเครียดได้ อุณหภูมิที่พอดีกับการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์อยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียส แต่ถึงแม้ว่าจะเลี้ยงแฮมสเตอร์ในกรงแต่แนะนำว่าควรให้เจ้าหนูออกมาวิ่งเล่น ปีนป่าย เพื่อปลดปล่อยพลังงานข้างนอกบ้าง และควรเตรียมของเล่นหนูแฮมสเตอร์ไว้ให้เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับพวกมัน
หนูแฮมสเตอร์อาบน้ำได้ไหม
ตามปกติแล้วหนูแฮมสเตอร์แทบจะไม่ต้องอาบน้ำเลยก็ว่าได้ เพราะตามธรรมชาติแล้วพวกมันเป็นสัตว์ที่ชอบทำความสะอาดตัวเองอยู่เป็นประจำ แต่ในกรณีที่น้องมีเนื้อตัวมอมแมมมี 2 วิธีในการทำความสะอาดหนูแฮมสเตอร์
- การอาบน้ำทราย เป็นการนำทรายอาบน้ำโดยเฉพาะมาให้หนูลงไปนอกเกลือกกลิ้งซึ่งคุณสมบัติของทรายจะช่วยขจัดกลิ่นและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนขนออกไป
- การใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด วิธีการคือนำผ้านุ่มๆ หรือสำลีมาชุบน้ำหมาดๆ จากนั้นจึงนำไปเช็ดในในพื้นที่ที่ต้องการอย่างเบามือ

แฮมสเตอร์เครียดเป็นยังไง โรคที่พบบ่อยในหนูแฮมสเตอร์
ในการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์นั้นพวกมันเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเซนซิทีฟต่อสิ่งเร้า และมีอาการเครียดได้ง่ายโดยอาการที่แสดงออกว่าแฮมสเตอร์เครียดคือการพฤติกรรมก้าวร้าว, หลบซ่อนตัวอยู่ในหลืบ, วิ่งไปวิ่งมาซ้ำๆ, ขนร่วง, หายใจดัง หรือเบื่ออาหาร ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้แฮมสเตอร์เครียดมาจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป, การอยู่ในที่แออัด, ไม่มีความเป็นส่วนตัว หรืออยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้แฮมสเตอร์เครียดนั่นเอง
นอกเหนือจากอาการเครียดแล้วแฮมสเอตร์ยังมีโรคประจำสายพันธุ์ที่พบได้บ่อย ดังนี้
- โรคขนร่วง มีหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อน ความเครียด กรงไม่สะอาด เป็นต้น แนะนำว่าตลอดการเลี้ยงดูควรดูแลความสะอาดของหนูอย่างสม่ำเสมอและคอยระวังไม่ให้แฮมสเตอร์เกิดความเครียด
- โรคหัดหรือโรคหางเปียก สาเหตุมาจากความเครียดและทานอาหารไม่สะอาด โดยหนูจะมีอาการท้องเสีย น้ำหนักลด และซึม
- โรคทางเดินหายใจ เกิดจากการเลี้ยงดูในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมซึ่งส่งผลให้หายใจลำบาก มีน้ำมูกนั่นเอง
- โรคเนื้องอก มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง ส่วนใหญ่มักจะพบในแฮมสเตอร์ที่เริ่มมีอายุ โดยอาการคือมีก้อนแข็งๆ อยู่ตามร่างกาย หากตรวจเจอควรนำไปพบแพทย์ทันที

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหนูแฮมสเตอร์
มาดูกันต่อกับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ เพราะแน่นอนว่าในการเตรียมตัวเลี้ยงสัตว์สักตัวจะต้องทำการบ้านกันเยอะมาก เชื่อว่าการเลี้ยงแฮมสเตอร์นั้นก็คงมีหลากหลายคำถามเช่นกัน ทางเอ็นโซ่จึงได้รวบรวมมาให้แล้ว ดังนี้
- หนูแฮมสเตอร์อยู่ได้กี่วัน? อายุขัยของหนูแฮมสเตอร์อยู่ที่ 2-3 ปี
- หนูแฮมสเตอร์สกปรกไหม? แฮมสเตอร์สะอาด พวกมันชอบเลียขนทำความสะอาดตลอดเวลา
- หนูแฮมสเตอร์ฉลาดหรือไม่? แฮมสเตอร์ฉลาด สามารถเรียนรู้ได้ไว และชอบสังเกต
- หนูแฮมเตอร์กลัวอะไร? แฮมสเตอร์ไม่ชอบเสียงดัง หรือกลัวการโดนคุกคามจากสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่นหมาหรือแมว เป็นต้น
- หนูแฮมสเตอร์ชอบของเล่นอะไร? ของเล่นที่แฮมสเตอร์ชอบ คือ วงล้อสำหรับวิ่ง, ท่อ, อุโมงค์, ลูกบอล เป็นต้น

ข้อดี-ข้อเสียการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์มีอะไรบ้าง
ก่อนตัดสินใจดำเนินการซื้อขายหนูแฮมสเตอร์เรามาดูข้อดี-ข้อเสียของเจ้าหนูแก้มตุ่ยกันดีกว่า โดยข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ดีไหม มาดูข้อดี-ข้อเสียกันได้เลย
ข้อดีของการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์
- ใช้พื้นที่เลี้ยงไม่เยอะ
- ตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก
- ดูแลไม่ยาก
- เป็นมิตร
- ค่าใช้จ่ายไม่สูง
ข้อเสียของการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์
- อายุขัยสั้น
- ใช้ชีวิตตอนกลางคืน
- เซนซิทีฟ

จบไปแล้วกับการทำความรู้จักประวัติหนูแฮมสเตอร์ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กแสนน่ารักที่มาพร้อมคาแรคเตอร์แก้มตุ่ยอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงโดนความน่ารักของเจ้าหนูสายพันธุ์นี้ตกอย่างจังๆ จนต้องอยากเลี้ยงเป็นของตัวเองแน่นอน และมาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าคงมีหลายคนกำลังหาแหล่งซื้อหนูแฮมสเตอร์ที่ไหนดี? ที่มีคุณภาพใกล้บ้าน ราคาไม่แพงอยู่แน่นอน สามารถเข้ามาดำเนินการซื้อขายหนูแฮมสเตอร์ฟรีได้ที่ ENNXO
