แนะนำคีย์บอร์ด แมคคานิคอล (Mechanical Keyboard) ยี่ห้อไหนดี ที่น่าใช้งาน

ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกม หากมีคีย์บอร์ดสวยๆ เสียงดังสะใจ หรือเสียงเงียบนุ่มนวล ยิ่งทำให้เพลิดเพลินในการใช้งานคีย์บอร์ด ซึ่งคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์การใช้งานของแต่ละคนได้ถูกจุดมากที่สุด นั่นก็คือ Mechanical Keyboard(คีย์บอร์ด แมคคานิคอล) นั่นเอง ใครที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดแมคคานิคอลสำหรับพิมพ์งาน หรือเล่นเกม ทั้งแบบคีย์บอร์ดใส คีย์บอร์ดมีจอ รุ่นใหม่ๆ อัปเดต 2024 รวมถึงยี่ห้อคีย์บอร์ดฮิตๆ ที่นิยมกัน มาดูได้เลยที่นี่ หากใครตามหาคีย์บอร์ดพิมพ์งานโดยเฉพาะ อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ ENNXO BLOG

ซื้อคีย์บอร์ด Mechanical ต้องดูอะไรบ้าง

แมคคานิคอลคีย์บอร์ด (Mechanical Keyboard) หรือ คีย์บอร์ดกลไก มีความพิเศษที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปคือ กลไกในการทำงาน ที่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนสำคัญๆ อย่าง แผงวงจร (PCB), สวิตช์ (Switch), คีย์แคป (Keycaps) และเพลท (Plate)

หากจะซื้อคีย์บอร์ดแมคคานิคอลสักอัน นอกจากดูเรื่องการดีไซน์แล้ว ต้องเช็คการใช้งานของตนเองว่าเน้นใช้งานไปที่ด้านใดบ้าง รวมถึงความชอบของตนเอง ว่าชอบคีย์บอร์ดไร้สาย แบบไวเลส/บลูทูธ หรือคีย์บอร์ดมีสาย USB หรือชอบแบบมีไฟวิบวับๆ อลังการหน่อยๆ ก็ต้องเป็นคีย์บอร์ดมีไฟ อย่างไรก็ตามคนที่จะซื้อคีย์บอร์ด Mechanical ต้องดูองค์ประกอบสำคัญอย่างตัวสวิตช์คีย์บอร์ดกับขนาดของคีย์บอร์ด ก่อนการตัดสินใจซื้อ

ขนาดของ Mechanical Keyboard

Mechanical Keyboard จะมีหลายขนาดด้วยกัน โดยหลักๆ ที่เห็นบ่อยและเป็นที่นิยม มีดังนี้

1.คีย์บอร์ด Full-Size หรือขนาด 100% เป็นคีย์บอร์ดมาตรฐานที่มีครบทุกปุ่มกด ตอบโจทย์คนที่มีพื้นที่วางคีย์บอร์ดเยอะ และชอบใช้แป้นตัวเลข

2.คีย์บอร์ด Ten-Key-Less (TKL) หรือขนาด 80% เป็นคีย์บอร์ดที่ไม่มีปุ่มตัวเลข

3.คีย์บอร์ด Compact หรือขนาด 60% เป็นคีย์บอร์ดที่ไม่มีปุ่มตัวเลข ปุ่มลูกศร และปุ่มที่เหลือจะขยับให้ชิดกัน เป็นคีย์บอร์ดขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับคนที่ชอบพกพาไปข้างนอก ขนาดคีย์บอร์ด 60% จะสะดวกในการพิมพ์มากกว่าเล่นเกม

สวิตช์ของ Mechanical Keyboard

สวิตช์ (Switch) เป็นชิ้นส่วนที่อยู่ใต้แป้นพิมพ์ ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณไฟฟ้าไปที่คอมพิวเตอร์ โดยสวิตช์คีย์บอร์ดจะมีอยู่หลากหลายแบบ หรือที่มักเรียกกันตามสี ซึ่งแต่สีจะมีเสียงสัมผัส และน้ำหนักที่ใช้กดปุ่มไม่เหมือนกัน สีสวิตช์คีย์บอร์ดมีดังนี้

1.Red Switch ประเภท Linear ใช้แรงกดจังหวะเดียว เสียงเงียบ ไม่ต้องใช้น้ำหนักในการกดปุ่มเยอะ เหมาะกับสายเล่นเกมและสายพิมพ์งานที่เน้นแบบรวดเร็ว นอกจากนี้ถ้าใครชอบ Red Switch แต่อยากได้แรงต้านเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย ก็จะมี Yellow Switch ที่เพิ่มค่า Actuation Force ขึ้นมานิดนึง และ Black Switch มีค่า Actuation Force มากกว่าแบบอื่นๆ นอกจากนี้หากเน้นความรวดเร็วสุดๆ เสียงเบาแบบผู้ดี กดครั้งเดียวแล้วไปเลย ต้องเป็น White Switch มีค่า Actuation Force น้อยกว่าแบบที่กล่าวมาทั้งหมด

2.Blue Switch ประเภท Clicky ใช้แรงกดสองจังหวะ เสียงค่อนข้างดัง เวลาพิมพ์จะเป็นเสียงคลิกๆ โดยใช้น้ำหนักในการกดปุ่มเยอะ เนื่องจากมีแรงต้านกว่าแบบอื่นๆ ตอบโจทย์คนที่ชอบเสียงต๊อกแต๊กดังๆ ให้ความรู้สึกฟินเวลาพิมพ์

3.Brown Switch ประเภท Tactile ใช้แรงกดสองจังหวะ เหมาะกับคนที่ชอบทั้งแบบ Red Switch กับ Blue Switch เพราะตัวนี้จะอยู่กึ่งกลางทั้งสอง คือมีเสียงมันส์แต่ไม่มากไป ไม่น้อยไป ใช้น้ำหนักกดปุ่มระดับปานกลาง

4.Green Switch ประเภท Clicky เป็นสวิตช์ที่ต้องใช้น้ำหนักในการกดปุ่มมากที่สุด เพราะมีแรงต้านมากกว่า Blue Switch ใครสายหนักๆ ต้องตัวนี้เลย

รวมคีย์บอร์ด Mechanical ดีไซน์สวย น่าใช้งาน

คีย์บอร์ดแมคคานิคอลจะมีลักษณะอยู่หลากหลายแบบ โดยเอ็นโซ่ขอแนะนำคีย์บอร์ดใสคีย์บอร์ดที่มีจอเล็ก มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก ใครที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดลักษณะเหล่านี้ มาดูรายละเอียดและราคาคีย์บอร์ดกันได้เลย

คีย์บอร์ดใส

หลายๆ คนน่าจะชอบคีย์บอร์ดที่มีคีย์แคปใส หรือคีย์บอร์ดใส ที่มองเห็นไฟได้แบบจัดเต็ม มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

คีย์บอร์ด AULA F98Pro

คีย์บอร์ดใสยี่ห้อ AULA ที่จัดเต็มเรื่องแสงสี RGB เมื่อใช้แล้วต้องร้องว้าว เพราะเต็มไปด้วยสีสันแบบอลังการ แถมยังครบเครื่องเรื่องการ Custom อีกด้วย โดยรุ่นนี้มีขนาด 99% ใช้วัสดุพีซีโปร่งใส โครงสร้างแบบ Gasket มาพร้อม Ice soul switch 95 คีย์ รองรับการกดได้ถึง 60 ล้านครั้ง มีหน้าจอเล็กๆ ใส่ Gif และปุ่มหมุน knob dual mode สามารถปรับระดับเสียง ความสว่างได้ รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ Bluetooth 5.0, USB Wireless 2.4GHz และ Type-C แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ในราคา 3,850 บาท มีสองสีให้เลือก คือสีขาวและสีดำ

ฟีเจอร์เด่นๆ

• ใช้ White Switch มี Hotswap มาให้พร้อม และเปลี่ยนสวิตช์เป็นแบบ 3pin กับ 5pin
• ระบบไฟ RGB 19 โหมด มีแสงไฟถึง 16 ล้านสี พร้อมเอฟเฟกต์เล่นตามเสียงเพลงอีก 10 โหมด พร้อมไฟ RGB ด้านข้าง
• มี Macro แบบใส่คลิกซ้ายขวา
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง iOS, MacOS, iPad, Tablet, Android, Windows XP, Windows 7, Windows 10, Windows 11

คีย์บอร์ด Saru Space Cosmic Smoke KX-75

คีย์บอร์ดขนาด 75% แบบใสกริ๊ง ที่มองเห็นทุกโครงสร้าง มาพร้อมแสงไฟแบบจัดเต็มเสมือนแสงอัญมณีวิบวับ โดยคีย์บอร์ดนี้ใช้วัสดุโปร่งใสสีดำ ฟอนต์สีทอง แป้นพิมพ์ภาษาอังกฤษเท่านั้น เลเยอร์คีย์บอร์ดมีหลายชั้นทั้งโฟม ซิลิโคน มีปุ่มหมุน Knob สามารถปรับระดับเสียง ความสว่างได้ ใช้งานได้นานตัวแบตเตอรี่มีความจุ 2500 mAh ในราคา 3,890 บาท รุ่นนี้ต่อได้ทั้งแบบ Bluetooth และ Wireless 2.4 GHz

ฟีเจอร์เด่นๆ

• ตัวสวิตช์เป็น Gateron Pro Yellow รองรับ Hotswap และสวิตช์ 3pin กับ 5pin
• ปรับไฟ RGB ได้ถึง 20 โหมด มี 16.8 ล้านสี พร้อมไฟ RGB ด้านข้าง
• โครงสร้างแบบ Gasket Mount ช่วยให้เพลิดเพลินในการพิมพ์
• มีคีย์แคปแถมเป็นรูปอวกาศน่ารักๆ
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง MacOS และ Windows

คีย์บอร์ด Nubwo X38

Nubwo X38 คีย์บอร์ดใส ไฟสีลูกกวาด สำหรับเกมมิ่ง ขนาด 96% มาพร้อมฟังก์ชัน 100% Anti-Ghosting ตอบโจทย์การกดหลายๆ ปุ่มพร้อมกัน รองรับการกดได้ถึง 50 ล้านครั้ง เชื่อมต่อได้ถึง 3 รูปแบบ ทั้ง 2.4G Wireless, Bluetooth 5.0 และ USB Type-C ส่วนของแบตเตอรี่มีความจุ 3000 mAh ราคา 1,490 บาท มีฟอนต์ให้เลือก 2 สี คือ สีเขียวและสีม่วง

ฟีเจอร์เด่นๆ

• ปรับไฟ RGB ได้ถึง 22 โหมด
• CIY Switch เปลี่ยนสวิตช์และคีย์แคปได้
• มีซอฟต์แวร์ Macro
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง MacOS, Smart TV, Windows, Android

คีย์บอร์ดที่มีจอ

คีย์บอร์ดมีจอก็เป็นแบบฮิต ที่ใครหลายคนตามหา ด้วยความที่ใส่ Gif หรือภาพเคลื่อนไหวได้ แถมคีย์บอร์ดบางรุ่นก็สามารถแสดงผลได้หลายอย่าง นับว่าเป็นจุดขายที่ตกเหล่าคนรักการตกแต่งคีย์บอร์ด โดยเอ็นโซ่ได้รวมคีย์บอร์ดมีหน้าจอแบบเจ๋งๆ ตัวตึงของรุ่น มาแนะนำ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

คีย์บอร์ด Skyloong GK87 Pro

Skyloong GK87 Pro คีย์บอร์ดขนาด 80% โครงสร้างที่ Triple Gasket มีหน้าจอ TFT ขนาด 1.7 นิ้ว พร้อมปุ่ม Knob 3 อัน เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้งานได้นานสุดๆ เพราะแบตเตอรี่ความจุ 7200 mAh เชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless และ Bluetooth มี 4 ธีมให้เลือก คือ Spartan (คีย์ไทย) มาในโทนสีดำขาวแดง แบบเท่ๆ, Crazy Scientist มาในแบบสูตรวิทยาศาสตร์, Hello Summer สีฟ้าสดใสแบบท่องใต้ทะเล และ Jelly Fish Theme (คีย์ไทย) โทนสีฟ้าดำ ลายแมงกระพรุน ราคาประมาณ 5,290 บาท

ฟีเจอร์เด่นๆ

• มีสวิตช์ให้เลือก 4 แบบคือ Rose Pink LN-EN, Rose Pink LN-TH/EN, Rose Sea Blue TT-EN, Rose Sea Blue TT-EN
• เปลี่ยนปุ่ม Knob กับหน้าจอ เปลี่ยนเป็นสวิตช์ได้
• หน้าจอดูสถานะของคีย์บอร์ดได้
• Spacebar เป็นแบบ 2 In 1 เป็นแบบยาว หรือแบ่งเป็นสองฝั่งได้
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง MacOS และ Windows

คีย์บอร์ด Ajazz AKP815

สร้างไอเดียให้หนำใจกับหน้าจอขนาดใหญ่ในคีย์บอร์ด Ajazz AKP815 คีย์บอร์ดขนาด 75% มาพร้อมจอ Streamdock ขนาด 4.9 นิ้ว โครงสร้างแบบ Gasket แต่รุ่นนี้ไม่มีแบบไร้สายนะ ต้องต่อสายเท่านั้น มาในราคา 3,890 บาท

ฟีเจอร์เด่นๆ

• หน้าจอใช้เป็นแป้นพิมพ์ตัวเลขได้, ทำเป็น Shortcut ได้
• ใช้ Red Switch แบบ Huano
• มีไฟ RGB เปลี่ยนได้ 20 โหมด
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง Mac และ Windows
• ซัพพอร์ตโปรแกรมตัวจอกับคีย์บอร์ดแยกกัน

คีย์บอร์ด Keydous NJ98

Keydous NJ98 คีย์บอร์ดขนาด 98% มี Docking Screen ที่เปลี่ยนจอได้ และมีปุ่ม Knob เพิ่มลดเสียงได้ รองรับการเชื่อมต่อได้ 3 แบบคือ แบบไร้สาย 2.4GHz, Bluetooth และแบบ USB Type-C ตัวแบตเตอรี่มีความจุถึง 8000 mAh ใครที่ไม่ชอบชาร์จแบตบ่อยๆ หรือชอบคีย์บอร์ดโทนสีมุ้งมิ้ง น่ารักๆ ต้องจัดตัวนี้เลย โดยราคาอยู่ที่ 4,890 บาท

ฟีเจอร์เด่นๆ

• Docking Screen แสดงภาพเคลื่อนไหว และบอกสถานะต่างๆ ได้
• สวิตช์แบบ Pre-Lube มีให้เลือกสองแบบคือ Gateron Milky Pro กับ Gateron G Pro Brown
• รองรับ Hotswap ทั้ง 3pin และ 5pin
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง Windows, Linux, MacOS และ Android
• มีซอฟต์แวร์ปรับแต่งปุ่มกด

คีย์บอร์ด Hello Ganss XS75T

คีย์บอร์ด Hello Ganss XS75T ขนาด 75% สำหรับรุ่นนี้นอกจากจะมีไฟ RGB มาแบบจัดเต็มจนแสบตาแล้ว ยังมี Knob กับจอ TFT ที่ตั้งเป็น Gif ภาพเคลื่อนไหว และแสดงค่าสถานะต่างๆ ได้ เช่น เวลา แบตเตอรี่ โครงสร้างเป็นแบบ Gasket แถมยังใช้คีย์บอร์ดได้สะดวกสบาย เพราะเชื่อมต่อได้ทั้ง 3 แบบคือ แบบไร้สาย Wireless, Bluetooth และสาย Wired ราคาประมาณ 3,590 บาท

ฟีเจอร์เด่นๆ

• หน้าจอ TFT สามารถพับเก็บได้ และปรับโหมดไฟได้
• มี Hotswap ตัวคีย์แคปที่ให้มาเป็น PBT Double shot
• มีจอยสติ๊กควบคุมโหมดไฟ
• มีซอฟต์แวร์ Macro ปรับปุ่มต่างๆ
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง Windows, MacOS

คีย์บอร์ด Royal Kludge RK S98

เปลี่ยนหน้าจอแบบทรงสี่เหลี่ยมมาเป็นทรงวงรีกันบ้างกับ คีย์บอร์ด Royal Kludge RK S98 ขนาด 96% ไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหน ตัวอักษรบนแป้นก็ไม่หาย เพราะคีย์แคปเป็น ABS แบบ Double-Shot มีปุ่ม Knob ปรับระดับเสียง ความสว่าง การเชื่อมต่อ ได้ โดยแบตเตอรี่ความจุ 3750 mAh เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย และบลูทูธ ราคา 2,929 บาท

ฟีเจอร์เด่นๆ

• จอภาพแสดงค่าสถานะอย่างแบตเตอรี่ ตั้งค่าไฟ RGB ได้
• สวิตช์แบบใหม่ คือ Chartreuse แบบ Linear
• รองรับ Hotswap
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ทั้ง Windows, MacOS

แนะนำแบรนด์คีย์บอร์ดดังๆ แบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง

หากคีย์บอร์ดที่เราแนะนำไปด้านบนยังไม่ถูกใจ เราได้เตรียมยี่ห้อคีย์บอร์ดที่สาย Mechanical Keyboard นิยมใช้กัน มาแนะนำให้เพื่อนได้รู้จักเพิ่มเติม มีดังนี้

1.Keychron (คีย์ครอน) แบรนด์คีย์บอร์ดยอดฮิต ที่มาพร้อมคุณภาพ และหลากหลายแบบให้เลือก ส่วนใหญ่โทนสีจะไปในโทนแบบคลาสสิก สวยสง่า ใช้วัสดุพรีเมียม นำเข้าจากประเทศฮ่องกง ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องคีย์บอร์ดไร้สายเลยทีเดียว

2.Ajazz คีย์บอร์ดราคาไม่แพง เข้าถึงได้ทุกคน มีลูกเล่นหลากหลาย และโทนสีมีทั้งแบบน่ารักและคลาสสิก เป็นแบรนด์ที่มักเห็นรีวิวได้บ่อยตามโซเชียล ใครชอบคีย์บอร์ดสีแบบมุ้งมิ้งๆ ที่ Ajazz มีให้เลือกเพียบ

3.Royal แบรนด์คีย์บอร์ดที่สร้างจากกลุ่มเกมเมอร์ แน่นอนว่าคีย์บอร์ดย่อมถูกใจใครหลายคน โดยเฉพาะสายเกมเมอร์ด้วยกัน ทั้งไฟคีย์บอร์ดที่จัดเต็มเอาใจสายเกมเมอร์ หรือคีย์บอร์ดคัสตอมแบบน่ารักๆ เอาใจสายพิมพ์งาน มีมาให้เลือกหลากหลาย พร้อมราคาเป็นมิตร

4.Loga คีย์บอร์ดแบรนด์ไทย ที่มาพร้อมการดีไซน์คีย์แคปสุดเจ๋ง และคุณภาพคับคั่ง มีให้เลือกหลากหลายแบบ แถมยังมีคีย์แคปที่เห็นแล้วต้องร้องตะโกนว่าสวย แนะนำว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ห้ามพลาด

5.ENNXO (เอ็นโซ่) ไม่ใช่แบรนด์ของคีย์บอร์ด แต่เป็นแพลตฟอร์มพื้นที่ออนไลน์ ที่มีพื้นที่ซื้อขายคีย์บอร์ดออนไลน์ หากกำลังมองหาคีย์บอร์ดทั้งแบบมือหนึ่งและมือสอง หรือจะลงขาย Mechanical Keyboard ก็ลงประกาศฟรีได้เลย