ปลาคราฟ กับวิธีเลี้ยงปลาคราฟเสริมความมงคลในบ้าน ให้ปลาคราฟมีลักษณะที่ดี

ปลาคราฟ กับวิธีเลี้ยงปลาคราฟเสริมความมงคลในบ้าน ให้ปลาคราฟมีลักษณะที่ดี

ENNXO
/
Blog
/
ปลาคราฟ กับวิธีเลี้ยงปลาคราฟเสริมความมงคลในบ้าน ให้ปลาคราฟมีลักษณะที่ดี

แชร์

Share on Line
อัพเดทล่าสุด: 14 มิ.ย. 2567

ปลาคราฟ หรือปลาคาร์ฟ ในภาษาอังกฤษเขียนว่า Carp หรือ Fancy Carp สำหรับต้นกำเนิดของปลาคราฟมีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า “Koi Fish” โดยปลาคราฟเป็นปลาเลี้ยงที่นิยมเลี้ยงในบ้านเพื่อความสวยงาม ทั้งยังสามารถเสริมความเป็นสิริมงคล และสร้างฮวงจุ้ยที่ดีให้บ้านเรือนได้ มากไปกว่านี้ปลาคราฟยังเป็นปลาเลี้ยงที่ติดท็อปอันดับราคาแพงที่สุดของโลก

ในบทความนี้เราได้นำเทคนิควิธีการเลี้ยงปลาคราฟ และข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาคราฟมาแบ่งปันกัน ก่อนจะลงมือเลี้ยงปลาคราฟ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงปลาคราฟ

เลี้ยงปลาคราฟ ต้องมีข้อควรรู้และข้อควรระวังอะไรบ้าง เมื่อต้องเลี้ยงปลาคราฟ อันดับแรกต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของปลาคราฟก่อน เพราะหากคุณสามารถรับมือในการเลี้ยงปลาคราฟได้ดีก็จะสามารถเพิ่มอายุของปลาคราฟได้มากขึ้น 

1. ลักษณะภายนอกของปลาคราฟ

สายพันธุ์ปลาคราฟแต่ละชนิดจะมีลักษณะที่ต่างกันออกไป แต่ทั่วไปแล้วปลาคราฟจะมีลักษณะลำตัวค่อนข้างกลม บริเวณหัวจะไม่มีเกร็ด ซึ่งสีปลาคราฟที่เราพบเห็นนั้นคือ สีแดง ส้ม และเหลือง เป็นสีที่เกิดจากสารแคโรทีนอยด์ที่สามารถเปลี่ยนสารสี 

และความเข้มของสีภายในได้เอง ส่วนสีอื่นๆ เช่น สีดำ, น้ำเงิน, ขาว หรือเมทัลลิก ที่พบในปลาคราฟนั้นเป็นเซลล์สีของปลาคราฟ โดยปลาคราฟที่ดีต้องมีลักษณะที่สมบูรณ์ตั้งแต่หัวจรดหางปลา ดูง่ายๆ ดังนี้

  • ปลาคราฟจะต้องมีขนาดสัดส่วนที่พอดี ลำตัวต้องไม่โค้ง หรือกลมเกินไป บริเวณหัวปลาต้องไม่นูนออกมา ครีบและหางต้องไม่แหว่งออก
  • สุขภาพผิวดูดี โดยสีของปลาคราฟต้องมีขอบสีที่เรียบสม่ำเสมอเป็นเงางาม
  • ลักษณะการเคลื่อนไหวของปลาคราฟ หากปลาคราฟตัวนั้นว่ายน้ำอย่างราบรื่น ดูสง่างาม ไม่ซึม จับตัวอยู่เป็นกลุ่มก้อนนั่นคือลักษณะของปลาคราฟที่ควรซื้อ
การเพาะพันธุ์ปลาคาร์ฟ

2. อายุของปลาคราฟที่ควรซื้อ

อายุของปลาคราฟ เป็นอีกข้อหนึ่งที่ควรคำนึง เพราะปลาคราฟที่จะซื้อมาเลี้ยงนั้นควรจะมีอายุระหว่าง 1-2 ปี และควรแยกบ่อเลี้ยงตามชนิดของพันธุ์ปลาคราฟ

แล้วรู้หรือไม่ว่า ปลาคราฟมีอายุขัยเฉลี่ยมากถึง 10 - 25 ปี เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ุของปลาคราฟเป็นตัวกำหนดอายุขัยของมันเองด้วย ซึ่งเคยมีบันทึกว่าปลาคราฟฮานาโกะ (Hanako) เป็นปลาคราฟจากประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกถึง 226 ปี ฉะนั้นการเลี้ยงดูปลาคราฟที่ดีจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมาก

ปลาคราฟอยู่ได้กี่ปี

ที่มารูป: hepper.com


3. สายพันธุ์ปลาคราฟที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด

สายพันธุ์ปลาคราฟ ที่นิยมเลี้ยงนั้นมีมากมาย จะมีสายพันธุ์ไหนบ้าง แต่ละพันธุ์มีจุดเด่นอย่างไร

  • ปลาคราฟ พันธุ์โคฮากุ (Kohaku) พันธุ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และนิยมเลี้ยงมากที่สุด ลำตัวจะมีสีขาวลายแดง โดยปลาคราฟ S Legend พันธุ์ Kohaku มีราคาแพงที่สุด ราคาประมาณ 65 ล้านบาท 
  • ปลาคราฟพันธุ์โชวา (Showa) / ปลาคราฟพันธุ์ไทโซซันโชกุ (Taisho Sanshoku) ลักษณะเป็นสีขาว แดง และดำ ราคาประมาณ 18,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์อุสึริโมโน (Utsurimono) ลวดลายสีดำพาดคล้ายสีหมึกดำ มีทั้งขาวดำ, แดงดำ และเหลืองดำ ราคาประมาณ 21,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์ตันโจ (Tancho) เป็นพันธุ์ที่หายาก จุดเด่นคือมีวงกลมสีแดงบริเวณหัวของปลา และตัวสีขาว จึงทำให้มองดูคล้ายธงชาติประเทศญี่ปุ่น นิยมอย่างมากในหมู่คนชอบปลาคราฟญึ่ปุ่น ราคาประมาณ 38,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์อาซากิ ชูซุย (Asaki Shusui) มีความโดดเด่นด้วยเกล็ดสีน้ำเงิน กลางลำตัวเป็นสีเทา ครีบและหางเป็นสีแดง ส่วนหัวต้องเป็นสีขาวถึงจะเป็นปลาคราฟที่สมบูรณ์ มีราคาประมาณ 34,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์เบนิ คิโคะคุริว (Beni Kikokuryu) ความพิเศษของพันธุ์นี้คือสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิ ส่วนใหญ่มีสีขาว ดำ และฟ้า ราคาประมาณ 72,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีปลาคราฟสายพันธุ์คินกินริน (Kin Gin Rin), ปลาคราฟพันธุ์โกโรโมะ (Koromo) และปลาคราฟพันธุ์โอกอน (Ogon) อีกด้วย

ปลาคราฟมีทั้งหมดกี่สายพันธุ์

ที่มารูป: giobelkoicenter.com


วิธีการเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน 

เมื่อศึกษาถึงวิธีการเลือกซื้อปลาคราฟ และข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับปลาคราฟแล้วนั้น วิธีการเลี้ยงปลาคราฟก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน โดยวิธีการเลี้ยงปลาคราฟในบ้านที่ดีนั้น มีดังนี้

1. บ่อปลาคราฟที่ดี ถูกต้อง เหมาะสม 

หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าบ่อปลาคราฟที่มีพื้นที่เยอะจะส่งผลดีต่อปลาคราฟ เราจึงเห็นว่าคนเลี้ยงปลาคราฟส่วนมากนิยมสร้างบ่อให้มีขนาดใหญ่เพื่อสามารถให้ปลาคราฟแหวกว่ายได้ ซึ่งเป็นวิธีทําบ่อปลาคราฟง่ายๆ แต่ต้องมีข้อที่ต้องระวัง ดังนี้

  • บ่อปลาคราฟจะต้องมีร่มเงาที่เพียงพอเพื่อช่วยลดระดับความเครียดของปลาคราฟ ทั้งยังช่วยให้ปลาคราฟมีสีสันที่สดสวยอีกด้วย
  • การรักษาอุณหภูมิของบ่อปลาคราฟที่เหมาะสม คือ อุณหภูมิ 15 - 25 องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิเหมาะสมแล้วจะส่งผลให้ระบบดูดซึมอาหารของปลาคราฟทำงานได้ดี
  • รูปทรงบ่อปลาคราฟที่นิยมสร้าง ได้แก่ บ่อปลาคราฟทรงเหลี่ยม นิยมทำเมื่อมีพื้นที่จำกัด, บ่อปลาคราฟฟอร์มเลียนแบบธรรมชาติ หรือฟรีฟอร์ม
  • บ่อปลาคราฟมีขนาดมาตรฐานประมาณ 80 x 120 เซนติเมตร และมีความลึกประมาณ 1.75 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนปลาคราฟที่เลี้ยงด้วย โดยไม่ควรเลี้ยงปลาคราฟจำนวนมาก และต่างสายพันธ์ุในบ่อเดียวกัน
วิธีทํา บ่อปลาคราฟ ง่ายๆ

2. ระบบกรองน้ำในบ่อปลาคราฟ

  • ระบบกรองน้ำกับบ่อปลาเป็นส่วนสำคัญ ควรมีความลึกและมีขนาดเป็นหนึ่งในสามของบ่อปลา บริเวณจุดต่ำสุดหรือเรียกว่าสะดือบ่อนั้นเป็นจุดที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบกรองน้ำเพื่อถ่ายเทของเสียออกจากบ่อปลาคราฟ จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อปลาคราฟทุกเดือน
  • การติดตั้งหัวพ่นอากาศในลักษณะของน้ำพุ หรือน้ำตกที่บ่อปลาคราฟจะเป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่เจ้าปลาคราฟของคุณได้
  • หลังจากเตรียมบ่อปลาเสร็จต้องแช่น้ำทิ้งไว้ 5 - 7 วัน แล้วปล่อยน้ำเสียออกมา จากนั้นเตรียมน้ำทิ้งไว้อีก 3 วัน แล้วค่อยเปิดระบบกรองน้ำทิ้ง 

โดยส่วนใหญ่แล้วระบบกรองน้ำรุ่นยอดนิยมที่ใช้สำหรับบ่อปลา คือ BOYU, SEAFLO, SUNSUN, RESUN, SONIC และ SOBO 

3. การทำความสะอาดบ่อปลาคราฟ

บ่อปลาคราฟที่สะอาดนั้นจะต้องใส่ใจดูแลบ่อกรองมากกว่าบ่อปลาคราฟ และควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากล้างบ่อเลี้ยงปลาคราฟบ่อยๆ อาจจะทำให้ปลาช็อคได้ 

วิธีการทำความสะอาดบ่อปลาคราฟที่ถูกต้อง คือ ควรกั้นน้ำระหว่างบ่อปลาคราฟกับบ่อกรอง จากนั้นถ่ายน้ำเสียออกจากบ่อกรอง แล้วปล่อยน้ำจากบ่อเลี้ยงเข้าสู่บ่อกรองเพื่อกรองทำความสะอาด และควรใส่จุลินทรีย์เพื่อปรับสภาพน้ำเสมอเมื่อทำการเปลี่ยน ทั้งในบ่อเลี้ยงปลาคราฟและบ่อกรอง โดยวิธีนี้จะสามารถทำให้บ่อเลี้ยงปลาสะอาด และปลาคราฟไม่เกิดอาการช็อคหลังจากเปลี่ยนน้ำได้

สำหรับใครที่กังวลเรื่องตะไคร่น้ำในบ่อเลี้ยงปลาว่าควรกำจัดหรือไม่ บอกเลยว่าตะไคร่น้ำนั้นเป็นหนึ่งในอาหารธรรมชาติที่ดีของปลาคราฟเลย ทั้งยังสามารถช่วยกรองน้ำในบ่อเลี้ยงปลาได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำว่าไม่ควรกำจัดหรือดูดตะไคร่น้ำทิ้งไป

4. การให้อาหารแก่ปลาคราฟ

ควรให้อาหารปลาคราฟ 2 ครั้งต่อวัน ได้แก่ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยควรให้ในปริมาณทีละน้อยๆ เพื่อให้เหมาะสมกับระบบการย่อยของปลาคราฟ ซึ่งอาหารที่ปลาคราฟกินได้ เช่น

  • พืชผัก เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด สาหร่าย แหน รำ หรือตะไคร่น้ำ
  • เนื้อสัตว์ที่เป็น เนื้อกุ้ง หอย ปู ปลาป่น ไรน้ำ ลูกน้ำ หรือหนอนแดง
  • อาหารสำเร็จรูป

โดยในการให้อาหารปลาแต่ละครั้งต้องคอยกำจัดเศษอาหารที่เหลือค้างในบ่อปลาเป็นประจำ

การเลี้ยงปลาคราฟ

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคการเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน และข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาคราฟที่เราได้รวบรวมมาให้ ใครที่กำลังสนใจอยากเลี้ยงปลาคราฟอยู่ แล้วเข้ามาอ่านบทความนี้ รับรองว่าปลาคราฟของคุณจะมีสีสวยสดใส เป็นปลาคราฟที่มีสุขภาพดี แถมได้วิธีดูแลบ่อปลาคราฟในบ้านให้ถูกต้อง แค่นี้ก็ทำให้บ้านของคุณดูร่มรื่นสวยงาม เพลิดเพลินไปกับฝูงปลาคราฟที่แหวกว่ายไปมา

สำหรับใครที่วางแผนจะเลี้ยงปลาคราฟ หรือเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงาที่บ้าน หรือกำลังมองหาอุปกรณ์ตกแต่งบ่อปลาคราฟ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความร่มรื่น และความสวยงาม ให้เกิดความผ่อนคลายภายในบ้าน สามารถเข้ามาเลือกหาได้ที่เอ็นโซ่ 

แชร์

Share on Line

บทความใกล้เคียง